ซีเอ็นเอ็นและไฟแนนเชียลไทม์สรายงานว่า หุ้นของเทสลาร่วงลงหลังจากที่นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าบริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าเทสลาระบุว่า เขาทำงานหนักจนตัวเป็นเกลียวและต้องพึ่งพายานอนหลับในการนอน
ในการให้สัมภาษณ์ที่เต็มไปด้วยน้ำตากับนิวยอร์กไทม์ส ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา นายมัสก์ระบุว่านี่เป็น “ปีที่ยากลำบากและเจ็บปวดที่สุด” ในชีวิตการทำงาน โดยระบุว่าเขาทำงานมากถึง 120 ชั่วโมงในบางสัปดาห์และมีปัญหาด้านการนอนหลับ
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนไม่ได้เห็นอกเห็นใจเขา โดยหุ้นของเทสลาร่วงลง 9 เปอร์เซ็นต์เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม และรวมแล้วคิดเป็น 21 เปอร์เซ็นต์นับตั้งแต่นายมัสก์ทวีตข้อความว่าเขาได้เงินทุนสำหรับการนำเทสลาออกจากตลาดหุ้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม นายมัสก์ไม่ได้สร้างความมั่นใจให้นักลงทุนว่าเขาควบคุมทุกอย่างอยู่ในมือแล้ว โดยเขายอมรับกับนิวยอร์กไทม์สว่า เขาไม่ได้ชี้แจงถึงความชัดเจนในข้อความที่ทวีตกับใครเลยในบริษัทเทสลาก่อนที่จะโพสต์ลงบนทวิตเตอร์เมื่อช่วงกลางวันของวันที่ 7 สิงหาคม
นั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ว่าทำไมหุ้นของเทสลาถึงร่วงลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง หลังจากพุ่งสูงถึง 11 เปอร์เซ็นต์ในวันเดียวกับที่นายมัสก์ทวีตข้อความออกมา
แต่ทวีตข้อความของนายมัสก์ส่งผลให้คณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (เอสอีซี) เข้ามาสอบสวนนายมัสก์และเทสลา
นอกจากนี้นิวยอร์กไทม์สยังรายงานว่า คณะกรรมการบริหารหรือบอร์ดของเทสลาบางส่วนยังเป็นกังวลต่อการใช้ยานอนหลับแอมเบียนและบางทีอาจรวมถึงยาคลายเครียดบางชนิดของนายมัสก์ด้วย