ในปัจจุบันผู้ค้าน้ำมันจะทำการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลรายวันเกี่ยวกับความต้องการบริโภคน้ำมัน เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์ข้อได้เปรียบทางการค้า
การเก็บข้อมูลดังกล่าวทำได้โดยอาศัยข้อมูลจากดาวเทียมติดตามเรือบรรทุกน้ำมันจากทั่วโลก ไปจนถึงการตรวจจับภาพความร้อนจากกล้องที่ติดอยู่บนท่อลำเลียงและถังเก็บน้ำมัน ข้อมูลความต้องการบริโภคน้ำมันตรงจุดตามเวลาจริงถือเป็นตัวเลขสำคัญที่จะเปลี่ยนวิถีของตลาดค้าน้ำมันโดยสิ้นเชิง
เมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา บริษัท แอปเปิ้ล อิงค์ ได้เปิดเผยแนวคิดการตรวจจับการเคลื่อนไหวและทำกิจกรรมต่างๆ ของบุคคลแบบใหม่ โดยใช้วิธีการตรวจจับกิจกรรมการค้นหาเส้นทางผ่านสมาร์ทโฟน
นักลงทุนต่างจับตามองหวังว่าจะมีโอกาสนำข้อมูลลักษณะดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ในการคะเนระยะเวลาฟื้นตัวของธุรกิจน้ำมันนับตั้งแต่มีการล็อคดาวน์จากวิกฤตโคโรนาไวรัสได้ แต่จนถึงปลายเดือนพฤษภาคมก็ยังไม่มีทีท่าว่าข้อมูลดังกล่าวจะทำให้เกิดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์แต่อย่างใด
ทางด้านสำนักบริหารสารสนเทศพลังงานของสหรัฐ (Energy Information Administration) ระบุข้อมูลความต้องการบริโภคน้ำมันลดลงเกือบ 6% ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคม สัญญาซื้อขายน้ำมันล่วงหน้าเองก็มีท่าทีตกต่ำแม้ว่าสหรัฐจะเข้าสู่ฤดูร้อนที่ปกติผู้คนมักเดินทางกันอย่างคับคั่ง
สาเหตุดังกล่าวทำให้นักลงทุนต่างแสดงความผิดหวัง เนื่องจากการบริโภคน้ำมันทั่วโลกราว 70% เป็นการใช้กับยานพาหนะ แต่ข้อมูลค้าปลีกน้ำมันเป็นตัวเลขที่มองจากอดีตในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาหรือก่อนหน้านั้น แทนที่จะเป็นข้อมูลที่รายงานตรงตามเวลาจริง นักลงทุนหลายรายมองว่าความคลาดเคลื่อนในการนำเสนอข้อมูลของแอปเปิ้ลทำให้พวกเขามีความเชื่อถือดัชนีของแอปเปิ้ล ลดน้อยลง
ฐานข้อมูลเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของแอปเปิ้ลนั้นอิงตามข้อมูลการค้นหาแทนที่จะอิงตามข้อมูลระยะทางที่เดินทาง จึงไม่มีความสัมพันธ์โดยตรงกับความต้องการบริโภคน้ำมันมากพอเมื่อเปรียบเทียบกับดัชนีอื่น
นอกจากนี้การตั้งค่าของไอโฟนมีทางเลือกในการจำกัดการแจ้งเตือนเมื่ออุปกรณ์ตรวจจับว่าผู้ใช้งานกำลังขับรถ และทางแอปเปิ้ลเองยังไม่ได้แสดงความชัดเจนถึงเจตนาที่จะนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้เพื่อปรับปรุงดัชนีข้อมูลการตรวจจับการเคลื่อนที่แต่อย่างใด
ที่ปรึกษาการลงทุนบางรายอย่าง แมท แซลลี่ กรรมการผู้จัดการบริษัท ทอร์ทิส แคปิตอล แอดไวเซอร์ (Tortoise Capital Advisors) มองว่าการใช้ตัวเลขข้อมูลจากแอปเปิ้ลประกอบกับข้อมูลจากดัชนีอื่นๆ ยังสามารถช่วยในการตัดสินใจเลือกลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงานได้ เขาเลือกใช้ข้อมูลจากทอมทอม (TomTom) ซึ่งใช้เทคโนโลยีติดตามความหนาแน่นของการจราจรในเมืองใหญ่ทั่วโลกตามเวลาจริง ประกอบกับข้อมูลดัชนีธนาคารกลางแห่งดัลลัส ซึ่งแสดงข้อมูลการเคลื่อนที่และการมีส่วนร่วมกับกิจกรรมในที่ต่างๆ
ดัชนีดังกล่าวมีการติดตามการเคลื่อนไหวในหลายรูปแบบ รวมทั้งระยะทางที่ผู้ใช้งานอุปกรณ์เดินทางในแต่ละวัน และระยะเวลาที่ผู้ใช้งานไม่อยู่บ้าน แต่การรายงานข้อมูลยังคงมีความล่าช้าไม่ตรงตามเวลาจริง
ทางด้านของผู้ค้าปลีกนิยมใช้ข้อมูลจาก แก๊สบั๊ดดี้ (GasBuddy) ซึ่งติดตามราคาน้ำมันและปริมาณการค้าน้ำมันตามสถานีบริการน้ำมันทั่วทั้งสหรัฐและแคนาดา และข้อมูลจาก โอพิส (OPIS) ซึ่งแสดงข้อมูลราคาและข่าวเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์น้ำมันผ่านกระบวนการต่างๆ
ส่วนที่ปรึกษาการลงทุนรายอื่นๆ ยังมีความเห็นพ้องต้องกันว่าเทคโนโลยีการติดตามค้นหาของบริษัทอื่น เช่น ทอมทอม มีความน่าเชื่อถือกว่าเทคโนโลยีการค้นหาของแอปเปิ้ล
