จากกรณี น.ส.จิตติมา สุพรรณพงศ์ อายุ 43 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ได้นำหลักฐานเข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่า ถูกผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาเกาะสมุย นำบัญชีธนาคารประเภทออมทรัพย์ของตนไปปลอมลายเซ็นเพื่อทำบัตรเอทีเอ็มในวันที่ 28 ธ.ค.55 และ พ.ศ.56 ก็เริ่มกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มออกมาอยู่เรื่อย ๆ ครั้งละหลักหมื่นถึงหลักแสน และยังได้ปลอมลายเซ็นในใบถอนเงินไปถอนเงินออกจากบัญชียอดสูงสุด 1 ล้านบาท จนในปี พ.ศ.58 ตนมาตรวจพบเงินในบัญชีพบว่าหายไปแล้วกว่า 9 ล้านบาท ซึ่งได้แจ้งความไว้ที่ สภ.บ่อผุด จ.สุราษฎร์ธานี ผ่านไป 1 ปีคดีกลับไม่มีความคืบหน้า
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 20 พ.ย. 62 น.ส.จิตติมา ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ธงชนะ หาญกิตติกาญจนา ผกก.สภ.บ่อผุด เพื่อให้ปากคำและติดตามความคืบหน้าของคดี โดยน.ส.จิตติมา บอกว่า ตนทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บนเกาะสมุย และได้นำที่ดินแปลงหนึ่งไปขายฝาก เพื่อเอาเงินมาทำธุรกิจห้องพักบนเกาะสมุย โดยตนได้นำเงินจำนวนกว่า 16 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาจากการนำที่ดินไปเปิดบัญชีฝากไว้กับธนาคารแห่งหนึ่งบนเกาะสมุย จำนวน 2 บัญชี คือบัญชีออมทรัพย์ กับบัญชีกระแสรายวัน ตั้งแต่ปี พ.ศ.56 เนื่องจากตนได้รู้จักกับพนักงานคนหนึ่งของธนาคารดังกล่าวในตอนนั้น โดยพนักงานคนดังกล่าว บอกกว่านำเงินจำนวนดังกล่าวไปฝาก ก็จะช่วยเหลือในการที่จะกู้เงินจากธนาคารได้ในอนาคต ตนก็ลงเชื่อใจพนักงานคนดังกล่าว แต่มาถึงปี 58 ตนได้สั่งจ่ายเช็ค ผ่านบัญชีธนาคารที่ตนฝากเงินไว้ ให้กับผู้ที่มารับทำงานค้าก่อสร้างที่พัก และค่าวัสดุ แต่กลับพบว่าเช็คที่ตนสั่งจ่ายผ่านบัญชีไม่ผ่าน เนื่องจากไม่มีเงินเพียงพอในบัญชี พอตรวจสอบยอดเงินทั้งหมดในบัญชีหายไป
ซึ่งจากการตรวจสอบตนเชื่อว่า มีคนแอบปลอมลายเซ็นของตนไปขอทำบัตรเอทีเอ็ม และแอบไปกดเงินออกจากบัญชี ในช่วงตั้งปี 58-60 ซึ่งมีการถอนเงินถึง 200 ครั้ง ตนจึงได้สอบถามไปยังพนักงานธนาคาร ที่เป็นแนะนำให้ตนนำเงินไปฝาก แต่กลับถูกบ่ายเบี่ยงเรื่องเงินหายไปจากบัญชีมาตลอด จนพนักงานของธนาคารคนดังกล่าวได้ลาออกจากธนาคารไป ตนจึงได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด เมื่อวันนี้ 9 พ.ย.61 เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีและเร่งติดตามเงินที่หายไป
ด้าน พ.ต.อ.ธงชนะ บอกว่า ขณะนี้ได้มีการสอบปากคำพยานไปแล้ว 3-4 ปาก และได้รวบรวมพยานหลักฐานการถอนเงินจากบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยทางเจ้าหน้าที่จะเอาขอมูลจากการสอบปากคำพยาน และจากปากคำของผู้เสียหายไปเปรียบเทียบกับข้อมูลจากการถอนเงินของธนาคารว่า ใครเป็นผู้ถอนเงินดังกล่าว
https://youtu.be/jgKsvoSp6_M