คุณรู้หรือไม่ว่าท่านอนสามารถส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับและสุขภาพโดยรวมของคุณได้? บางท่าอาจดีต่อสุขภาพ ขณะที่บางท่าอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายของคนเรา เราจะประเมินและเรียงลำดับ 4 ท่านอนพื้นฐานโดยเริ่มจากท่าที่ดีที่สุดไปจนถึงท่าที่แย่ที่สุด
ท่านอน #1 – ท่านอนหงาย
ผู้ที่นอนหงายอาจดูค่อนข้างแปลก..ใช่ไหม? การนอนตัวตรงนิ่งๆพร้อมกับสายตาจ้องมองไปยังเพดานทำให้พวกเขาดูมีลักษณะคล้ายกับศพ นี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงมีชาวอเมริกันเพียงร้อยละ 16 ที่นอนท่านี้ ที่สำคัญผู้ที่นอนหงายมีแนวโน้มว่าจะกรนดังอีกด้วย แต่จริงๆนี่คือท่านอนที่ดีต่อสุขภาพมากที่สุดเนื่องจากกระดูกสันหลัง ศีรษะ และลำคอของคุณจะอยู่ในตำแหน่งปกติ..ไม่เอียงไปยังมุมแปลกๆ ดังนั้นเมื่อคุณนอนหลับก็จะไม่มีแรงกดทับบนส่วนต่างๆของร่างกายและคุณจะไม่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกที่ว่านอนคอเอียงตลอดทั้งคืน หากคุณวางหมอนรองใต้เข่าก็จะยิ่งทำให้ตำแหน่งของกระดูกสันหลังดีขึ้น นอกจากนี้การนอนหงายยังช่วยป้องกันโรคกรดไหลย้อนด้วย ทางที่ดีควรให้ศีรษะยกสูงในตำแหน่งที่เหมาะสม การนอนหงายจะไม่ทำให้ใบหน้าของคุณต้องสัมผัสกับหมอนซึ่งอาจทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นในระยะยาวได้ อย่างไรก็ตามใช่ว่าทุกคนควรนอนหงาย หากคุณเป็นโรคหยุดหายใจขณะหลับก็ไม่ควรนอนหงายเนื่องจากคุณจะกรนดังมากและลิ้นของคุณอาจไปอุดกั้นทางเดินหายใจได้จนทำให้หยุดหายใจชั่วคราว
ท่านอน #2 – ท่านอนตะแคง
หากคุณไม่สามารถนอนหงายได้ การนอนตะแคงก็อาจเป็นทางเลือกต่อไป ลำตัวกับขาของคุณจะค่อนข้างเหยียดตรง ท่านอนตะแคงมีประโยชน์หลายข้อ ข้อแรกคือโอกาสในการเกิดโรคกรดไหลย้อนจะต่ำลงอย่างเห็นได้ชัดตราบใดที่ศีรษะของคุณยังอยู่สูงกว่าท้อง ข้อสอง..นี่คือท่าที่เหมาะสำหรับผู้ที่นอนกรนมากที่สุดเนื่องจากมันจะทำให้ทางเดินหายใจเปิดกว้างและอากาศเคลื่อนที่อย่างอิสระ หากคุณเป็นโรคหยุดหายใจขณะหลับก็ควรพิจารณาท่านอนตะแคง ข้อสาม..การนอนตะแคงซ้ายจะดีต่อสุขภาพหัวใจ เลือดจะไหลเวียนออกจากหัวใจและถูกส่งไปทั่วร่างกายจากนั้นก็กลับมายังฝั่งขวา เมื่อคุณนอนตะแคงขวาร่างกายก็จะกดทับเส้นเลือดที่ไหลเวียนเลือดกลับไปยังหัวใจและทำให้มีอาการตึงมากขึ้น นอกจากนี้การนอนตะแคงจะส่งผลดีต่อสมองเนื่องจากจะช่วยขับสารพิษอันตรายออกไป แถมยังดีต่อกระดูกสันหลังด้วยเพราะจะช่วยยืดกระดูกสันหลังและบรรเทาอาการปวดหลังได้ ทั้งนี้การนอนตะแคงก็มีข้อเสียไม่ว่าจะเป็นใบหน้าเสียดสีกับหมอนตลอดทั้งคืนซึ่งทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ ทางที่ดีคุณควรนอนหงายหากกังวลเรื่องความอ่อนเยาว์ การนอนตะแคงอาจทำให้แขนข้างหนึ่งของคุณอ่อนแรงซึ่งเกิดจาก “หลอดเลือดฝอยแตก” โดยเมื่อมีการกดทับก็จะทำให้ระบบไหลเวียนเลือดหยุดทำงาน
ท่านอน #3 – ท่าเด็กทารก
ท่าเด็กทารกจะคล้ายกับท่านอนตะแคงแต่มีการงอตัวไปข้างหน้าและงอเข่าขึ้นมาด้วย ท่านี้จะเหมาะกับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หากคุณนอนตะแคงไปทางซ้ายเลือดจะถูกส่งไปหล่อเลี้ยงทั้งตัวคุณและตัวอ่อนเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันมดลูกจากการถูกกดทับรวมถึงตับที่อยู่ทางด้านขวาของร่างกายด้วย แถมยังเป็นท่าที่เหมาะกับผู้ที่นอนกรนดังอีกต่างหากเนื่องจากจะทำให้ทางเดินหายใจเปิดกว้างอยู่ตลอด อย่างไรก็ตามมีข้อเสียอยู่ไม่กี่ข้อ หากคุณขดตัวแน่นเกินไปก็อาจทำให้การหายใจเข้าออกในกระบังลมผิดปกติได้ และถ้าคุณเป็นโรคไขข้ออักเสบการนอนท่านี้ก็อาจทำให้อาการแย่ลงไปกว่าเดิม ดังนั้นควรยืดตัวออกไปให้มากที่สุดและวางหมอนรองไว้ใต้เข่าทั้งสองข้าง
ท่านอน #4 – ท่านอนคว่ำ
นี่คือท่านอนที่แย่ที่สุดสำหรับร่างกายของคนเรา คุณต้องฝืนนอนในท่าที่ผิดหลักสรีรศาสตร์ เช่น ต้องบิดลำคอ 90 องศาและยกศีรษะนอนบนหมอนซึ่งไม่ดีต่อหลังส่วนล่างของคุณอย่างแน่นอน ที่สำคัญคุณไม่ควรนอนท่านี้ติดต่อกันเป็นเวลานานเนื่องจากหลังของคุณไม่ได้ถูกออกแบบมาให้งอขนาดนี้ เมื่อคุณนอนคว่ำหลังส่วนล่างของคุณก็จะถูกกดทับตลอดทั้งคืนและอาจทำให้ปวดหลังในเวลาต่อมา ข้อดีเพียงอย่างเดียวของการนอนคว่ำคือมันจะช่วยในเรื่องการกรน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามคุณควรหลีกเลี่ยงการนอนท่านี้
คุณควรเปลี่ยนท่านอนไหม?
ขึ้นอยู่กับว่าคุณรู้สึกอย่างไรในทุกๆเช้า ถ้าคุณมีอาการปวดหลังก็อาจต้องเปลี่ยนท่านอนใหม่ หรือถ้าคุณมีปัญหาเกี่ยวกับการนอนก็อาจต้องพิจารณา..
- คุณภาพของที่นอน
- มีสุขอนามัยการนอนที่ดีขั้นพื้นฐานหรือไม่
- หากมีภาวะของโรคใดๆต้องระบุให้ชัดเจน
หากปล่อยไว้ไม่รักษาก็อาจทำให้นอนหลับไม่เพียงพอขั้นรุนแรงได้และเสี่ยงต่อการเป็นโรคอื่นๆตามมาอีกด้วย
สรุป
เมื่อพูดถึงท่านอน ประเด็นแรกคือระดับความสบายโดยรวม ปัญหาสุขภาพ และคุณภาพการนอนหลับของคุณซึ่งจำเป็นมาก หากคุณรู้สึกเหนื่อยล้าตลอดทั้งวันก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ท่านอนยังส่งผลกระทบต่อสิ่งต่างๆ เช่น กระดูกสันหลัง การไหลเวียนเลือด และสุขภาพสมองของคุณ การนอนหลับในท่าที่เหมาะสมจะทำให้คุณตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกสดชื่นเต็มเปี่ยม