วันที่ 26 ม.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pasnicha Krutdamrongchai ระบุว่าเป็นนักศึกษาไทยที่ไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยอู่ฮั่น โพสต์ข้อความเมื่อเวลา 14.20 น. ว่า สถานการณ์ของนักศึกษาส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบอาหารไม่เพียงพอเพราะไม่ได้ซื้ออาหารกักตุนไว้ เนื่องจากได้รับแจ้งเรื่องการปิดเมืองกระทันหันมาก และไม่สามารถออกไปหาซื้อที่ไหนได้ เพราะเดินทางไปไหนไม่ได้
.
ซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้มหาวิทยาลัยก็ขายของหมดแล้ว เพื่อนนักศึกษาต่างชาติ เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ได้รับแจ้งจากสถานทูตว่าเตรียมดำเนินการเพื่อจะรับตัวกลับแล้ว
.
ตนเองรอความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทยอยู่ ถ้ายังอยู่ต่อไม่รู้ว่าจะอดอาหารตาย หรือติดเชื้อตาย อยากกลับบ้านมาก รอด้วยความหวัง
.
ขณะที่มีผู้เข้าไปแนะนำให้ลงทะเบียนกับสถานทูตไทย เพื่อประสานการติดต่อแล้ว
ขณะเดียวกัน น.ส.ณัฐพน พันสุภะ นักศึกษาระดับปริญญาโทสาขาแพทย์แผนจีน ในเมืองอู่ฮั่น ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสว่า อาหารการกินลำบากมาก เพราะร้านค้าปิดหมด มหาวิทยาลัยต้องจัดรถพาไปซื้ออาหารเป็นช่วงๆ สัปดาห์ละครั้ง ร้านค้ายังพอมีสินค้ามาลงแต่ราคาจะสูงขึ้น
.
ที่อู่ฮั่นมีนักศึกษาไทยอยู่ประมาณ 67 คน (ในหลายมหาวิทยาลัย) มีการส่งข่าวสารกันตลอด มีหลายคนอยากกลับประเทศแต่เข้าใจว่าต้องรอสถานการณ์คลี่คลายก่อนเพราะยังมีความเสี่ยงอยู่เยอะ ส่วนทางสถานทูตได้มีการรวบรวมข้อมูลและติดตามนักศึกษาไทยอยู่ตลอด
.
ความช่วยเหลือที่ต้องการต้องนี้คือ อาหารและหน้ากากอนามัยที่มีราคาแพงมาก
ภาพจาก FB ณัฐวุฒิ เอี่ยมเนตร
ด้านณัฐวุฒิ เอี่ยมเนตร นักศึกษาไทยอีกคน ที่โพสต์ภาพเมืองอู่ฮั่นที่ราวกับเมืองร้างและมีการแชร์กันไปจำนวนมาก โพสต์ข้อความเมื่อช่วงเช้าวันนี้ว่า คนไทยที่อยู่ที่อู่ฮั่นมีประมาณ 50-60 คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา ส่วนใหญ่พักอาศัยอยู่ในเขตมหาวิทยาลัยจึงมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง เนื่องจากคนไม่พลุกพล่านเพราะเป็นช่วงมหาวิทยาลัยปิดเทอม
.
ปัจจุบันยังไม่เกิดสภาวะขาดแคลน จึงบอกไม่ได้เหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
.
ทั้งนี้ ในช่วงบ่าย ภายหลังการหารือร่วมกันของ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็น 3 กระทรวงที่อยู่ภายใต้การดูแลของพรรคภูมิใจไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า หากมีการประสานจากกระทรวงการต่างประเทศเพื่ออพยพคนไทยจากเมืองอู่ฮั่น ก็จะเร่งหาแนวทางช่วยเหลือ
.
ขณะที่ วันพรุ่งนี้ (27 ม.ค.)กระทรวงการต่างประเทศของไทย จะหารือเรื่องการเตรียมแผนอพยพคนไทยหากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รุนแรงขึ้น จะให้กองทัพส่งเครื่องบินทหาร ซี-130 บินเข้าไปรับคนไทยในอู่ฮั่นกลับประเทศไทยทันที
ต่อมา น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง ได้ติดต่อให้นักเรียนไทยคนอื่นช่วยเหลือนักศึกษาคนดังกล่าวเรื่องการหาแหล่งอาหารเพิ่มเติมแล้ว นอกจากนี้ตรวจสอบกับมหาวิทยาลัยพบว่าร้านค้าและโรงอาหารเปิดปกติ ส่วนสถานเอกอัครราชทูตของประเทศต่างๆ ที่มีการอ้างถึงในโพสต์ยังไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ ขณะที่การตรวจสอบพบมีคนไทยในเมืองอู่ฮั่นรวม 64 คน
