โลกโซเชียลมีเดียกำลังให้ความสนใจกรณีเหตุทำร้ายร่างกายนักศึกษา โดยอ้างเหตุเป็นการดูแลรุ่นน้องนักศึกษาได้ไม่ดี ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถึงขั้นม้ามแตก แพทย์จำเป็นต้องผ่าตัดนำออก กลายเป็นเรื่องราวที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก โดย ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Rungroj Khwunkomol ได้โพสต์ข้อความเมื่อคืนวันที่ (19 ก.ค.) โดยระบุว่า ต้องการแชร์เรื่องราวสู่สังคม เนื่องจากหลานชายถูกรุ่นพี่ในคณะ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ทำร้ายร่างกายกระทั่งม้ามแตก โดยให้เหตุผลต่อการกระทำเพียงเพราะว่า ดูแลรุ่นน้องไม่ดี เพื่อนหลานประมาณ 20 คน ก็โดนต่อยเช่นกัน ความโชคร้ายเล่นตลกตกที่หลานถึงขนาดม้ามแตก ต้องตัดม้ามทิ้ง ตอนนี้ยังอยู่ ICU ใส่เครื่องช่วยหายใจ มันคือ พยายามฆ่า เหตุการณ์ครั้งนี้ทางญาติได้แจ้งทางสถาบันให้รับทราบว่าทางเราจะดำเนินการให้ถึงที่สุด ทางญาติได้สอบถามรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงทำให้ทราบตัวผู้กระทำความผิดและต้องการให้เพื่อนๆ ช่วยแชร์กันออกไปให้คนที่กระทำความผิดได้รับโทษ ให้เหตุการณ์นี้ไม่เงียบหายไป คนทำผิดเขาสมควรได้รับบทลงโทษที่เขาได้กระทำ พ่อแม่จะรู้ไหมส่งลูกมาเรียนแต่ต้องมาโดนคนพวกนี้ทำร้ายร่างกาย อย่าให้ลูกหลานเราโดนคนเหล่านี้มาทำร้ายร่างกายและคุกคามจิตใจลูกหลานเรา
นอกจากนี้ ผู้โพสต์ยังได้ทิ้งท้ายในข้อความว่า “การศึกษา ครอบครัว สังคมไม่สามารถขัดเกลาจิตใจคนเหล่านี้ มันเกินเยียวยา” และเตรียมดำเนินการแจ้งความที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ และติดต่อกับทางสถานศึกษาแห่งนี้ในวันนี้ต่อไป ภายหลังจากเรื่องราวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่ามีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก
น.ส.ประสบสุข เชียงเชาว์ไว อายุ 37 ปี อาชีพพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง พร้อมด้วย นางจันทิมา หงษ์ปรีชา พี่สาว เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ ให้เอาผิดดำเนินคดีกับนักศึกษา 3 คนจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ หลังทำร้ายร่างกาย นายปวริศ หรือ “เปา” รังสิต อายุ 19 ปี ลูกชายซึ่งกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ม้ามแตก นอนพักรักษาตัวที่ห้องไอซียู รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า
ทั้งนี้ แม่และป้า เล่าว่า “น้องเปา” ถูกรุ่นพี่นักศึกษาคณะเดียวกันชั้นปีที่ 3 สั่งทำโทษในลักษณะการธำรงค์วินัยแบบทหาร และทำร้ายร่างกายด้วยการชกต่อยจนมีอาการม้ามแตกต้องเข้ารับการผ่าตัดและนอนพักรักษาตัวในห้องไอซียู รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยหลังเกิดเหตุได้พยายามขอชื่อและนามสกุลผู้ก่อเหตุจากทางคณาจารย์ของทางสถาบันดังกล่าว เพื่อนำเป็นหลักฐานในการเข้าแจ้งความกับทางตำรวจข้อหาทำร้ายร่างกาย แต่ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
จากการพูดคุยสอบถามเพื่อนรุ่นเดียวกันพบว่ารุ่นพี่กลุ่มนี้เคยลงโทษรุ่นน้องด้วยวิธีการรุนแรงจนได้รับบาดเจ็บ และสมัยที่ลูกชายอยู่ปี 1 ก็ถูกลงโทษรุนแรงแต่ไม่สาหัสจนต้องเข้าโรงพยาบาล การแจ้งความร้องทุกข์ครั้งนี้อยากจะให้รุ่นพี่ที่ตอนนี้รู้ชื่อหมดทุกคนแล้ว ออกมาแสดงความรับผิดชอบและถูกดำเนินคดี เพระตั้งแต่เกิดเรื่องไม่มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบเลยและไม่มีใครมาเยี่ยมน้องที่ รพ.แม้แต่คนเดียว
