หาดชะอำพบนักท่องเที่ยว รวมกลุ่มลงเล่นน้ำ-นั่งพักผ่อนจำนวนมาก ฝ่าฝืนคำสั่งปิดหาดของจังหวัดเพชรบุรี
ผู้สื่อข่าว รายงาน ที่บริเวณชายหาดหลังจากที่ทาง จ.เพชรบุรี มีมาตรการผ่อนปรน ระยะ 2 สามารถเปิดโรงแรม ประเภทที่ 1 และ 2 ได้ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ยังไม่เปิดชายหาดให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อน วันนี้พบมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ จำนวนมากฝ่าฝืน ประกาศจังหวัดเพชรบุรี
เรื่องปิดชายหาดชะอำ และห้ามมิให้เล่นกีฬาทางน้ำ หรือกิจกรรมการร่วมกลุ่ม บริเวณชายหาดชะอำ ฝ่าฝืนระหว่างโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้พบนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดและ กทม. รวมกลุ่มนั่งพักตากอากาศบริเวณหลังป้ายประกาศจังหวัดเพชรบุรี บ้างส่วนก็ไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย ลงเล่นน้ำ เดินชายหาด จับกลุ่มคุยกัน นั่งทานอาหาร
โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองชะอำ ใช้รถเปิดเสียงไซเรนเป็นการเตือน และประชาสัมพันธ์กันตลอดทั้งวัน นักท่องเที่ยวได้ทราบข้อมูลได้กลับขึ้นจากชายหาด และกลับเข้าที่โรงแรมที่พักใกล้สถานที่เกิดเหตุ
นายสุนทร เจี้ยมดี หัวหน้าเทศกิจเทศบาลเมืองชะอำ บอกว่า สำหรับชายหาดชะอำ ทางจังหวัดเพชรบุรีได้สั่งปิดชายหาด ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน พฤษภาคม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จึงขอความร่วมมือประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาเที่ยวที่ชายหาดชะอำ ขอให้ชะลอหรือระงับการท่องเที่ยวไว้ก่อน
เนื่องจะเป็นการแพร่ระบาดเชื้อโควิค 19 ทางเทศบาลเมืองชะอำ ได้หารือกับ จ.เพชรบุรี แล้วว่าถ้าเปิดชายหาด ก็จะมีประชาชน และนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นโอกาสเสี่ยงที่จะติดได้ง่าย จึงอยากขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการชายหาดชะอำ ให้อดใจรอ
ทุกวันนี้เจ้าหน้าที่ทำงานกันอย่างหนักวิ่งประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวนักทราบกันตลอดทั้งวัน จึงขออาศัยสื่อประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า เพื่อความปลอดภัยแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวยังชายหาดชะอำ ขอให้ทุกคนอย่าเพิ่งเดินทางมาท่องเที่ยว หรือรวมตัวกันที่บริเวณชายหาดชะอำ
โดยในสิ้นเดือนนี้จะรอดูคำสั่งทางจังหวัดเพชรบุรีอีกครั้ง ว่าสามารถเปิดชายหาดได้หรือไม่ ปัจจุบันนี้เจ้าหน้าที่พยายามทำงานจากเบาไปหาหนัก ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวทุกคนเข้าใจ การเข้าไปแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์ ว่ากล่าวตักเตือนแล้วยังไม่ฟังก็จะจำกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย สำหรับผู้ฝ่าฝืนมีโทษตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ปรับ 40,000 บาท หรือจำคุก 1 เดือน.
