โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ธ.ก.ส. ประชุมทั่วประเทศเตรียมความพร้อมลงพื้นที่ช่วยเกษตรกร 3.81 ล้านราย ลดภาระหนี้

ไทยโพสต์

อัพเดต 16 ส.ค. 2561 เวลา 03.23 น. • เผยแพร่ 16 ส.ค. 2561 เวลา 03.23 น. • ไทยโพสต์

ธ.ก.ส. เตรียมประชุมผู้บริหาร-สาขาทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมปูพรมลงพื้นที่ช่วยเกษตรกร 3.81 ล้านราย ผ่านโครงการลดภาระหนี้เพื่อสนับสนุนการปฏิรูปภาคเกษตรตามแนวทางเกษตรประชารัฐ

นายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 17 ส.ค.นี้ ธนาคารจะมีการจัดประชุมใหญ่ผู้บริหาร และสำนักงานสาขาทั่วประเทศกว่า 2 พันคน เพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจโครงการลดภาระหนี้เพื่อสนับสนุนการปฏิรูปภาคการเกษตรตามแนวทางเกษตรประชารัฐ และจัดทำแนวทางการลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์โครงการ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรทั่วประเทศถึงพื้นที่กว่า 3.81 ล้านคน โดยไม่ต้องเดินทางมาสาขาของธนาคาร

“ตอนนี้ธนาคารกำลังเตรียมความพร้อม ด้วยการจัดทำคู่มือ วิธีปฏิบัติต่าง ๆ เพื่อสื่อสารกับพนักงานและนำไปประชาสัมพันธ์ให้กับเกษตรกรได้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง โดยแนวทางของ ธ.ก.ส.จะจัดชุดเจ้าหน้าที่ลงไปหาเกษตรกรในพื้นที่เลย เพื่ออำนวยความสะดวก ไม่ต้องให้เกษตรกรลำบากต้องเดินทางมายื่นเรื่องที่สาขา เพราะปกติ ธ.ก.ส.จะมีการลงพื้นที่สำหรับนัดพูดคุยกับเกษตรกรเป็นประจำอยู่แล้ว” นายสมศักดิ์ กล่าว

สำหรับรูปแบบการช่วยเหลือเกษตรกร แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการช่วยเหลือแบบภาคสมัครใจ พักชำระเงินต้นใจแก่เกษตรกรที่มีหนี้กับ ธ.ก.ส. ระยะเวลา 3 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1ส.ค. 2561- 31 ก.ค.2564 โดยใครจะเข้าหรือไม่ก็ได้ เพราะหากเกษตรกรรายใดมีกำลังผ่อนชำระได้ ไม่ต้องการเสียดอกเบี้ยเพิ่มก็สามารถผ่อนชำระได้ตามปกติ เพราะโครงการนี้พักเฉพาะเงินต้น แต่ดอกเบี้ยยังคิด และให้ผ่อนชำระดอกเบี้ยอยู่ แต่ถ้าเป็นดอกเบี้ยเดิมก่อนเข้าโครงการให้ชำระตามงวดอย่างน้อยปีละ1ครั้ง

ส่วนที่สอง โครงการการลดดอกเบี้ยเงินกู้  ธ.ก.ส.จะลดดอกเบี้ยเงินกู้ใหม่ 3% ให้ทุกคนที่เข้าเกณฑ์ เฉพาะวงเงิน 3 แสนบาทแรก เป็นเวลา 1 ปี  โดยมีเกษตรกรที่เข้าเกณฑ์ 3.81 ล้านราย  เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.2561-31 ก.ค.2562 โดยในจำนวนนี้เป็นส่วนที่ ธ.ก.ส.ลดให้ 0.5% อีกส่วนมาจากที่รัฐบาลช่วยชดเชยอีก 2.5%

“โครงการส่วนที่สองนี้เกษตรกรจะได้รับการช่วยเหลือเท่ากันไม่ต้องมาสมัครแต่อย่างใด นอกจากนี้ ในระหว่างที่มีการพักชำระหนี้ ธนาคารยังเปิดให้เกษตรกรสามารถกู้เงินดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อนำไปปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตได้ หรือกู้ทำการผลิตโครงการใหม่ได้ หลายโครงการเพื่อปรับเปลี่ยนการผลิต หรือนำไปพัฒนาอาชีพได้ด้วย” นายสมศักดิ์ กล่าว

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า ธ.ก.ส.ได้เตรียมวงเงินสินเชื่อสำหรับเปิดให้เกษตรกรสามารถกู้เงินนำปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต หรือกู้ทำการผลิตโครงการใหม่ได้หลายโครงการ อาทิ  โครงการสินเชื่อเพิ่มศักยภาพการประกอบอาชีพ ดอกเบี้ยเงินกู้ปี 5%ต่อปี วงเงิน 1 แสนล้านบาท อีกทั้งยังมีสินเชื่อนำไปใช้ปรับโครงสร้างการผลิตและมีแผนพัฒนาอาชีพรายบุคคล ด้วย เช่น โครงการสินเชื่อชุมชนเพื่อการปรับเปลี่ยนการผลิตเพื่อพัฒนาอาชีพผู้มีรายได้น้อย (โครงการเอ็กซ์วายแซด) ดอกเบี้ย 0.01%

นอกจากนี้ ยังมีโครงการสินเชื่อพัฒนาอาชีพผู้มีรายได้น้อยดอกเบี้ย 0% 6 เดือน สินเชื่อเพื่อปรับโครงสร้างการผลิตการเกษตรสู่ความยั่งยืน หรือกรณีมีความจำเป็นยังสามารถขอสินเชื่อและสินเชื่อจัดหาปัจจัยการผลิตจากโครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกร โครงการสินเชื่อบัตรเกษตรสุขใจ โครงการสินเชื่อเงินด่วน เอ-แคลชได้ด้วย

อย่างไรก็ดี กลุ่มเกษตรกรเป้าหมายที่ได้รับความช่วยเหลือพักหนี้ลดดอกเบี้ยครั้งนี้ มีลูกหนี้ทั้งหมดที่เข้าข่าย 3.81 ล้านราย วงเงินลูกหนี้ 1.35 ล้านล้านบาท แยกเป็นวงเงิน 0-300,000 บาท จำนวน 2.61 ล้านราย เป็นเงิน 363,652 ล้านบาท วงเงิน 300,001 - 1,000,000 บาท จำนวน 1.05 ล้านราย เป็นเงิน 540,536 ล้านบาท วงเงิน 1,000,001 บาทขึ้นไป จำนวน 0.15 ล้านราย เป็นเงิน 445,829 ล้านบาท

ขณะที่การออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรดังกล่าว ครม.ได้อนุมัติงบประมาณสำหรับทำทั้ง 2 โครงการ โดยเป็นการใช้งบกลางปี 2561 ในช่วงเดือน ส.ค. และ ก.ย. 2561 จำนวน 2,724.85 ล้านบาท  ส่วนอีก 10 เดือนที่เหลืออีก 13,580 ล้านบาท จะเป็นงบประมาณปี 62 ซึ่งกระทรวงการคลังดำเนินการใช้ตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติ ครม.ต่อไป.

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0