บ.สิงห์ ครอปโปรเทคชั่น ธุรกิจเคมีเกษตรเผยสถานการณ์ภัยแล้ง เกษตรงดปลูกพืชกระทบรายได้ 50% ชี้เชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ามาซ้ำ ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ธุรกิจหยุดชะงักการขนส่งสินค้าไม่สะดวก เร่งปรับตัวผ่านออนไลน์-ไลฟ์สดขายสินค้า สร้างสีสันใหม่ของผู้ประกอบการเคมีเกษตร
นายสุรศักดิ์ วงศ์นาม กรรมการ บริษัท สิงห์ ครอปโปรเทคชั่น จำกัด ผู้จัดจำหน่ายธุรกิจเคมีเกษตรรายใหญ่ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ยอดจำหน่ายสารเคมีทางการเกษตรลดลงอย่างมาก เนื่องจากเกษตรกรประสบปัญหาภัยแล้งต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้ว ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ามาซ้ำเติม คาดว่าส่งผลกระทบต่อธุรกิจเกษตรกว่า 80% โดยช่วงที่ผ่านมาทางบริษัทไม่สามารถออกไปหาร้านตัวแทนจำหน่ายได้ เนื่องจากติดประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่สามารถข้ามจังหวัดได้ ทำให้การขายชะงัก เหมือนเป็นการลดบทบาทของธุรกิจลงไปอีก ถึงแม้จะมีออร์เดอร์สั่งซื้อเข้ามาบ้าง แต่การขนส่งไม่สะดวก เนื่องจากโดนจำกัดในเรื่องเวลา ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทหายไปมากกว่า 50% ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีเครือข่ายลูกค้าประจำอยู่ที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ 80% รวมประมาณ 200 ราย และกระจายอยู่ทั่วประเทศประมาณ 20%
“ปกติถ้าเกษตรกรเพาะปลูก 1 ไร่ ต้องใช้ยาฆ่าหญ้า 50-60% เพื่อเตรียมแปลง แต่ออร์เดอร์ช่วงนี้หายเงียบ ฤดูที่ผ่านมาฝนไม่ตก เกษตรกรไม่มีการเพาะปลูกพืช จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้สารเคมี อีกทั้งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ามาซ้ำเติม เราไม่สามารถคุยกับลูกค้าโดยตรงได้ ไม่สามารถรู้ได้ว่าลูกค้าต้องการสินค้าตัวไหน ปัจจุบันลูกค้าปลูกพืชชนิดไหนอยู่ เราได้แต่รอลูกค้าให้ติดต่อเข้ามา หรือเราจะโทร.ไปนำเสนอได้ตรงกับสินค้าที่ต้องการหรือไม่ ทำให้ยอดขายตกลงไปมาก ถึงแม้จะมีคนตกงานและหันไปทำอาชีพการเกษตร แต่คิดว่าเป็นการทำเพียงชั่วคราวไม่ได้ทำเป็นอาชีพ ตอนนี้รัฐบาลปลดล็อกการเดินทางข้ามจังหวัดจะทำให้สถานการณ์ต่าง ๆ คงจะดีขึ้น และฝนเริ่มตกลงมาแล้ว”
นายสุรศักดิ์กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันทางบริษัทได้ปรับตัวเน้นใช้การสื่อสารทางด้านเทคโนโลยีมากขึ้น เช่น การจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ การเจรจาผ่านไลน์ การไลฟ์สดผ่านเพจ ซึ่งเป็นสีสันใหม่ของธุรกิจเคมีเกษตร ถือว่าเป็นการปรับตัวเพื่อเชื่อมต่อกับลูกค้า ซึ่งทางบริษัทมีทั้งลูกประจำและลูกค้าที่เห็นสินค้าผ่านช่องทางการตลาด แต่ไม่หวือหวามากนัก เนื่องจากเป็นช่องทางการจำหน่ายใหม่ที่ไม่เคยทำมาก่อน ถือว่าเป็นการทดลองในการปรับเปลี่ยนธุรกิจในยุคโควิด-19
“การสื่อสารทางออนไลน์ถือว่าเป็นการปรับตัวและทดลองปรับเปลี่ยนรูปแบบการจำหน่ายของนักธุรกิจเคมีเกษตรในยุคหลังจากเกิดไวรัสโควิด-19 การไลฟ์สด สร้างสีสันใหม่ให้กับผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก ทุกคนต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด”
ทั้งนี้ ในส่วนของการสั่งแบนสารเคมี พาราควอตและคลอร์ไพริฟอสนั้น ทางบริษัทได้มีการเตรียมตัวมานาน คิดว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะว่าได้มีการส่งรายงานสต๊อกสินค้าให้กับกรมวิชาการเกษตร ทุกวันที่ 15 และวันที่ 30 ของทุกเดือนอยู่แล้ว ส่วนผู้ประกอบการทั้งหมดที่เหลือสต๊อกอยู่ประมาณ 10-20% อาจได้รับผลกระทบไม่มาก
