โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ธุรกิจสหรัฐหั่นงบลงทุน รับผลกระทบสงครามการค้า

Money2Know

เผยแพร่ 20 พ.ค. 2562 เวลา 07.25 น. • money2know - เงินทองต้องรู้
ธุรกิจสหรัฐหั่นงบลงทุน รับผลกระทบสงครามการค้า

ธนาคารกลางจีนหวั่นสงครามการค้าส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก  จากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ ซึ่งกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการดำเนินนโยบายที่มีความไม่แน่นอนของประเทศต่างๆ

โดยเฉพาะหน้าจะเป็นความไม่แน่นอนที่ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของโลก นับจากการที่ผู้ประกอบการธุรกิจชะลอการตัดสินใจลงทุน ไปจนถึงอุปสงค์ภายนอกประเทศที่ลดลงจากภาวะห่วงโซ่อุปทานที่อาจจะเกิดภาวะชะงักงัน

นอกจากนั้น ความขัดแย้งทางการค้ายังอาจฉุดเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงในอนาคต ขณะที่ภาวะเงินเฟ้อเร่งตัวสูงขึ้น รวมทั้งส่งผลต่อความเชื่อมั่นของภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจที่ลดลง และอาจจะส่งผลถึงความผันผวนในตลาดการเงินโลกด้วย

แต่สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจจีน ทางธนาคารกลางจีนมั่นใจว่าจะยังคงจะยังมีเสถียรภาพ โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยหลายอย่าง ถึงแม้ว่ายังมีปัจจัยความไม่แน่นอนจากภายนอกประเทศก็ตาม รวมทั้งยังจะสามารถรับมือกับความไม่แน่นอนต่างๆ โดยยังสามารถปรับเปลี่ยนนโยบาย อีกทั้งยังมีเครื่องมือทางการเงินที่หลากหลายและมีความยืดหยุ่นต่างๆ

ทั้งนี้ เศรษฐกิจจีนจะยังมีเสถียรภาพในไตรมาสแรกปีนี้ ด้วยอัตราขยายตัวที่ 6.4% เมื่อเทียบระยะเดียวกันปีก่อน ซึ่งสะท้อนสัญญาณเศรษฐกิจที่มีการขยายตัว และมีการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ที่สหรัฐประกาศมาตรการจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 25% มูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนมีการตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีเป็นมูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์ในลักษณะเดียวกันนั้น ธนาคารกลางจีนได้ดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในการอัดฮีดสภาพคล่องเขาตลาดการเงิน

ล่าสุด ธนาารกลางจีนระงับการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดเงินในวันนี้ เพื่อรักษาสภาพคล่องในระบบธนาคารให้มีเสถียรภาพ และอยู่ในระดับที่เพียงพออย่างมีเหตุผลในปี 2019 นี้ โดยผ่ายคลาด Rreverse Repo ซึ่งเป็นการเข้าซื้อสินทรัพย์จากธนาคารพาณิชย์โดยมีข้อตกลงขายคืนในอนาคต

ในขณะที่ทิศทางของเงินหยวนเคลื่อนไหวอ่อนค่าลงทั้งในตลาดออนชอร์ แตะที่ระดับ 6.92 หยวนต่อดอลลาร์ และตลาดออฟชอร์ซึ่งแตะระดับ 6.94 หยวนต่อดอลลาร์

ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวของวอลล์สตรีท เจอร์นัลด์ชี้ว่า บรรดาบริษัทขนาดใหญ่ของสหรัฐมแนวโน้มที่จะตัดการลงทุนในปี 2019 และ 2020 เนื่องจากกังวลในความเสี่ยงจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

โดยมีการประมาณการกันว่า การใช้จ่ายเพื่อการลงทุน หรือ Capital Spending ของ 356 บริษัทในดัชนี S&P 500 จากที่ปรับตัวสูงขึ้น 3% ในไตรมาสแรกนี้จากช่วงปีก่อนหน้า คาดว่าจะลดลงราว 1 ใน 5

ตรงข้ามกับบรรยากาศการให้สัมภาษณ์ของประธานาธิบดีทรัมป์ ต่อ Fox News เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า มาตรการทางภาษีดังกล่าวจะช่วยให้สหรัฐได้เม็ดเงินเพิ่มขึ้นมากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ และยังเชื่อว่า ในท้ายที่สุดทางการกรุงปักกิ่งที่ถูกกดดันอย่างหนักจะยอมประนีประนอมต่อข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ

นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐยังระบุถึงสิ่งที่เคยกล่าวกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ว่าข้อตกลงการค้าจะต้องไม่ใช่การแบ่งผลประโยชน์แบบ 50-50 เพราะสหรัฐจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ สำหรับการชดเชยกับความสูญเสียจากการแนวทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมของจีนในช่วงที่ผ่านมา

ทั้งๆ ที่สหรัฐและจีนเคยมีข้อตกลงการค้าที่ดีและแข็งแกร่ง แต่ฝ่ายจีนได้กระทำการละเมิดจากข้อตกลง ทำให้สหรัฐจะต้องดำเนินการรีดภาษีสินค้าเพื่อเอาคืนจากจีน

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0