ธุรกิจท่องเที่ยวไทยโตต่อเนื่อง คนไทยนิยมใช้สินค้าแบรนด์เนม

แนวโน้มทิศทางของผู้ประกอบการไตรมาสสุดท้าย เผย ธุรกิจท่องเที่ยวไทยโตต่อเนื่อง คนไทยนิยมใช้สินค้าแบรนด์เนม

จากแนวโน้มทิศทางของผู้ประกอบการไทยที่ผ่านมาไตรมาสสุดท้ายใน 3 เดือนนี้ต้องบอกก่อนว่าเศรษฐกิจไทยตอนนี้มีการเติบโตมากขึ้นถ้าวัดจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในประเทศไทยจะเห็นได้ว่าจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปีอยู่แล้วและปีนี้มันเพิ่มเยอะมากกว่าปกติ

แปลว่าไตรมาสสุดท้ายจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มเข้ามาอีกมากขึ้นเพราะเป็นช่วงของวันหยุดช่วงปลายปี ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาจากโซนยุโรป อเมริกา และชาวจีนที่มาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเป็นโอกาสที่ดีมากที่ผู้ประกอบการในประเทศไทยจะทำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือบริการใหม่ ๆ ให้ตอบสนองกับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเร็วๆ นี้

ทิศทางกลุ่มธุรกิจหรือบริการที่มีการเติบโตเป็นพิเศษ ได้แก่ ธุรกิจโรงแรม สปา สถานพยาบาล สถานที่ท่องเที่ยงต่างๆ สามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรงแรมที่ราคาไม่สูงมากยังสามารถตอบโจทย์นักเที่ยวท่องที่เป็นประเภทแบ็คแพ็คเกอร์ อีกทั้งการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เชิงธรรมชาติ ก็ยังถือเป็นจุดเด่นประเทศไทยมีมนต์เสน่ห์อย่างมาก

จากข้อมูลที่ได้มีการศึกษามานักท่องเที่ยวที่มาประเทศไทยส่วนใหญ่นิยมมาท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยวตามต่างจังหวัดที่เน้นสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม ค่อนข้างหลากหลายทั่วทุกภาค เช่นภาคเหนือก็จะเด่นในเรื่องของวัด ป่า เขา ถ้าเป็นภาคใต้ก็จะเด่นในเรื่องของทะเล ส่วนภาคอีสานก็จะเป็นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ถือเป็นแหล่งที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาได้อย่างดีเยี่ยมและยังสร้างรายได้หลักให้กับประเทศไทยอีกด้วย

ดร.สุทธิภัทร อัศววิชัยโรจน์ อาจารย์คณะบริหารธุรกิจและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนานาชาติ แสตมฟอร์ด ประเทศไทย เล่าต่อว่า ด้านประเทศไทยสินค้าแบรนด์เนมยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่หลายคนจะมองว่าเศรษฐกิจยังไม่ค่อยดี เศรษฐกิจอาจจะโตไม่มาก แต่ทำไมแบรนด์เนมยังอยู่ได้

เนื่องจากภาพลักษณ์ของคนไทยติดแบรนด์เนมค่อนข้างสูง ส่วนใหญ่คนไทยใช้สินค้าแบรนด์เนมจากเมืองนอกแทบทั้งหมดเช่น กระเป๋า โทรศัพท์มือถือ นาฬิกา โน้ตบุ๊ค เพราะว่าประเทศไทยเองไม่ได้มีสินค้าที่เป็นแบรนด์เนมที่ผลิตเองทั้งหมด เราจึงต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศค่อนข้างเยอะ

เพราะสินค้าแบรนด์เนมพวกนี้รวมไปถึงรถยนต์ก็ถือว่าเป็นสินค้าแบรนด์เนม เราต้องนำเข้าจากเมืองนอกทั้งหมด มันจึงทำให้มีมูลค่าเพิ่ม ที่สำคัญอยากรณรงค์ให้คนไทยใช้สินค้าไทยเหมือนกัน อีกทั้งอยากผลักดันในผู้ประกอบการของไทยเองทำตราสินค้าส่งออกไปสู่เมืองนอกและเป็นแบรนด์ของชาติ ที่จะสามารถทำให้มันติดตลาดโลกได้และคนไทยก็ใช้มันเหมือนกัน

นอกจากนี้งานวิจัยการวิเคราะห์ความต้องการของตลาดในแต่ละกลุ่มประเทศทั่วโลก พบว่ากลุ่มประเทศต่างๆทั่วโลกที่ต้องการสินค้าจากประเทศไทย มีความต้องการที่แตกต่างกัน ดังนี้ กลุ่มประเทศแปซิฟิคใต้ (ออสเตรเลีย) มีความต้องการอาหารแปรรูป เช่น อาหารกระป๋องจำพวกเครื่องแกง ข้าว และน้ำมะพร้าวเป็นหลัก, ด้านกลุ่มประเทศยุโรปมีค่อนข้างหลากหลายประเภทสินค้า

อาทิเช่น สินค้าบริโภค ได้แก่ อาหาร ผลไม้แห้ง และข้าว สินค้าแฟชั่น ได้แก่ เสื้อผ้า เครื่องประดับ และจิวเวอรี่ สินค้าอุตสาหกรรมหนัก ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ ชิ้นส่วนยานยนต์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, ด้านกลุ่มประเทศตะวันออกกลางมีความต้องการสินค้าสำคัญที่เป็นที่ต้องการของตลาดมี 3 ประเภทหลัก

ได้แก่ ชิ้นส่วนรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และ อัญมณีนอกจากนี้ยังมี ข้าว และอาหารแปรรูป, ด้านกลุ่มประเทศอเมริกา (แคนาดา)มีความต้องการของตลาดค่อนข้างชัดเจนคือ อาหาร เช่น อาหารสำเร็จรูป ข้าว ผลไม้ และน้ำมะพร้าวและกลุ่มประเทศแอฟริกา
มีความต้องการของตลาดได้แก่สินค้าอาหารแปรรูป สินค้าแฟชั่น เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์คอมพิวเตอร์