“มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าทีมชาติไทย วัย 30 ปี ออกมาเปิดเผยถึงชีวิตการค้าแข้งกับ ซานเฟรชเช่ ฮิโรชิม่า ในศึกเจลีก ฤดูกาล 2018 ที่ผ่านมา โดยทำผลงานยิงไป 7 ประตู 3 แอสซิสต์ จากการลงสนามทุกรายการ 37 นัด พร้อมพาทีมจบรองแชมป์ และคว้าสิทธิไปเตะถ้วยเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก เพลย์ออฟรอบสาม ในฤดูกาลหน้า หลังจากย้ายจากสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ไปด้วยสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาล และจะกลับมาเล่นให้กับต้นสังกัดเดิมในฤดูกาลหน้า
ธีรศิลป์ กล่าววว่า ในปีนี้มีหลายอย่าง ทั้งการปรับตัว เพื่อนร่วมทีมใหม่ หรือการมาอยู่ในลีกที่แข็งแกร่งขึ้น มีหลายอย่างต้องเจอ แต่ก็มีหลายอารมณ์ที่เกิดขึ้น มีความสุขกับชัยชนะ เสียใจที่แพ้ บางนัดทำได้ดี บางนัดก็ไม่ดี แต่หนึ่งปีที่ผ่านมาเราสนุกกับมัน ได้เรียนรู้ฟุตบอลญี่ปุ่น ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อน ส่วนฟอร์มการเล่นในปีที่ผ่านมา บางนัดทำได้ดี บางนัดก็เล่นไม่ได้ ไม่สามารถช่วยทีมได้ บางเกมยิงประตูได้และชนะ ก็มีความสุข โดยรวมก็มีโอกาสลงเล่นเยอะพอสมควร
“ทุกครั้งก็พยายามทำให้ดีที่สุดกับการได้รับโอกาสลงไปเล่น สนุกกับการลงไปเล่นทั้งในฐานะตัวจริงและตัวสำรอง รวมถึงบอลถ้วย ส่วนแมตช์ที่ประทับใจมากสุดเป็นเกมนัดแรกของฤดูกาล เพราะเป็นนัดแรกในเจลีกด้วย และก็ทำประตูแรกได้ด้วย สุดท้ายทีมชนะด้วย มันถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีในเจลีกด้วย เรื่องคุณภาพนักเตะแต่ละทีม และแต่ละเกมนั้นไม่มีเกมไหนง่ายเลย จะมีคู่ต่อสู้ที่มีคุณภาพ และมีความแตกต่างของแต่ละเกม ไม่ว่าทีมจะอยู่อันดับไหน ก็สามารถแพ้ชนะกันได้ด้วยคุณภาพของแต่ละทีม”
เจ้ามุ้ยกล่าวว่า โดยรวมมาตรฐานทีมญี่ปุ่นค่อนข้างสูง ส่วนการใช้ชีวิตก็มีหลายอย่างได้ลองได้เปลี่ยนความคิด ทั้งเรื่องอาหาร วัฒนธรรม เราอาจจะรู้มาบ้าง แต่ไม่เข้าใจจุดประสงค์จริงๆ ภาษาก็ได้รู้มากขึ้น หลังจากนี้คงไปเที่ยวญี่ปุ่นก่อน และค่อยเดินทางกลับไทย มีที่ๆอยากไปอยู่ ว่าจะพาลูกไปเที่ยวที่โอซาก้า
“สุดท้ายขอบคุณแฟนบอลทุกคนมากๆ ฤดูกาลนี้มันเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับผม แต่ผมพยายามทำงานอย่างหนัก ปรับตัว เรียนรู้สิ่งต่างๆ ขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้ผม และทีมซานเฟรชเซ ฮิโรชิมา ไม่ว่าทีมจะแพ้หรือชนะ ก็จะมีกำลังใจตลอด ปีนี้ผ่านไปแล้ว ปีหน้าผมก็ยังคงทำงานหนักอยู่เหมือนเดิม และก็อยากได้กำลังใจและขอบคุณล่วงหน้าสำหรับกำลังใจของผมครับ” ดาวยิงทีมชาติไทยกล่าวทิ้งท้าย
