"ธรรมนัส" ลงพื้นที่ตรวจราชการพะเยา เดินหน้าทำตามสัญญา "พะเยาโมเดล" ดันราคาข้าวหอมมะลิ 18,000 บาท ต่อตัน ยางพารา 65 บาทต่อ กก.พร้อมสร้างอ่างเก็บน้ำญวณแก้ปัญหาภัยแล้งยั่งยืน
เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่หอประชุม รร.บ้านสบสา ต.น้ำเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ อาทิ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมาตรวจราชการ และพบปะประชาชนในพื้นที่ อ.เชียงคำ โดยมีนายวุฒิชัย เสาวโกมุติ รอง ผวจ.พะเยา พล.ต.ต.อดุลย์ ดรุณเพท ผบก.ภ.จว.พะเยา ตลอดจนตัวแทนส่วนราชการ ทั้งกรมชลประทาน สำนักงานปฎิรูปที่ดิน หรือ สปก.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาต้อนรับจำนวนมาก
ร.อ.ธรรมนัส ได้กล่าวระหว่างพบปะกับประชาชนในพื้นที่ช่วงหนึ่งว่า ตนมาวันนี้ในฐานะ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นตัวแทนของคนทั้งประเทศ ไม่ใช่เฉพาะ ส.ส.หรือผู้แทนของชาวพะเยา หรือพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น และวันนี้สิ่งที่เคยสัญญากับชาวพะเยาก็ยืนยันจะผลักดันให้ประสบความสำเร็จโดยเร็ว โดยจะประสานกับทุกภาคส่วนในพื้นที่ เพื่อพัฒนาและขับเคลื่อนจังหวัดให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้แนวคิด พะเยาโมเดล เป็นตามที่ตั้งเป้าไว้ โดยเรื่องแรกคือ ผลักดันราคาข้าวหอมมะลิ ไม่ต่ำกว่า 18, 000 บาท ต่อตัน นอกจากนึ้ยังมีเรื่องราคายางพารา ที่จ.พะเยา จะต้องรับซื้อที่ 65 บาท ต่อ กก.
นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวถึงการแก้ปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืนในพื้นที่ อ.เชียงคำ คือโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำญวน ที่จะพยายามประสานกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อร่วมแก้ปัญหาที่เป็นอุปสรรคในการก่อสร้างดังกล่าว เพราะหากประสบความสำเร็จจะช่วยแก้ปัญน้ำท่วมพืชไร่ นาข้าวในฤดูฝน และยังช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งในกรณึฝนทิ้งช่วงได้อย่างแน่นอน
ด้านนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ ทำให้รับทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความเดือดร้อนของประชาชนฐานราก โดยเฉพาะปัญหาแหล่งน้ำ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญมาก โดยจะนำเรียนเรื่องนี้เพื่อพิจารณาดำเนินการแก้ไขปัญหา ตามขั้นตอนต่อไป