ความเคลื่อนไหว "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" ก่อนวันเปิดศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยอมรับนำส.ส. พรรคพลังประชารัฐเข้าพบ พล.อ.ประวิตร บอกไม่ยึดติดกระแสข่าวการปรับครม. หลังจบการซักฟอก เผยไม้ตายมีชื่อนักการเมืองรุกที่ ส.ป.ก. หลักแสนไร่
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีข้อมูลผู้ถือครองที่ดิน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ทั้งส.ส.ฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล หลักแสนไร่ แต่ขั้นตอนการดำเนินการต่อไปนั้นต้องพิจารณาอย่าละเอียดรอบคอบ แต่หากพบว่า มีการถือครองที่ดินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็ต้องส่งมอบคืนให้ทางราชการและจัดสรรให้กับเกษตรกรต่อไป อย่างไรก็ตามหลังจากเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะมีการเปิดเผยรายชื่อให้ประชาชนรับทราบ
(ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ)
สำหรับการเตรียมพร้อมในฐานะ 1 ใน 5 รัฐมนตรีที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนได้เตรียมข้อมูลพร้อมชี้แจงฝ่ายค้านทุกเรื่อง และไม่กังวลหากฝ่ายค้านนำเรื่องคุณสมบัติรัฐมนตรีมาอภิปราย เพราะได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวหลายครั้งแล้วทั้งในห้องประชุมสภาและห้องประชุมคณะกรรมาธิการ แต่หากให้ชี้แจงอีกก็พร้อม
ส่วนการสัมมนา ส.ส. ของพรรคพลังประชารัฐ ระหว่างวันที่ 22-23 ก.พ. ที่ จ.ชลบุรี เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนั้น ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ไม่มีสิทธิ์ในการอภิปราย แต่สามารถทำหน้าที่ประท้วงในแต่ละประเด็นได้ โดยสิทธิ์การอภิปรายเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ภายหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอาจมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่กังวลกับเรื่องดังกล่าว เพราะตนไม่ได้มีอาชีพนักการเมือง แต่มีเจตนารมณ์ต้องการเข้ามาทำหน้าที่เพื่อประโยชน์แก่ประชาชนและประเทศชาติ ดังนั้นในฐานะรัฐมนตรีช่วย ไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง ส่วนผลโหวตหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจของตนจะมากหรือน้อย และจะมีผลต่อการปรับตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ส่วนตัวยังไม่ทราบ แต่ก็ไม่กังวลเรื่องนี้
(วิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล)
กรณีกระแสข่าวที่ระบุว่ามีความขัดแย้งกับนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของสื่อมวลชน ยืนยันว่า ส.ส.พรรคพลังประชารัฐเป็นหนึ่งเดียวกัน ที่ผ่านมาไม่มีความขัดแย้งภายในพรรค แต่ ส.ส.บางคนอาจมีความน้อยใจอยู่บ้างถือเป็นเรื่องปกติ ทุกคนมาจากการเลือกตั้งของประชาชนมีสิทธิแสดงความคิดเห็น ย้ำว่า ตนกับนายวิรัช ไม่มีปัญหาที่ต้องเคลียร์กัน เพราะทุกคนต่างมีหน้าที่และต้องการทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ขณะที่การเดินทางไปพบพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐที่บ้านพักนั้นเพื่อนำ ส.ส.ที่ อยู่ต่างจังหวัดและไม่มีโอกาสร่วมงานสัมมนาของพรรคที่เมืองพัทยาไปเข้าพบ พล.อ.ประวิตร เพราะส.ส. ส่วนใหญ่ต้องการใกล้ชิดและอยากมีบทบาทในทางการเมือง ยืนยันว่าไม่ได้ไปพูดคุยกดดันให้มีการเปลี่ยนแปลงตัว นายวิรัช ออกจากตำแหน่งประธานวิปรัฐบาล และไม่ได้ออกมาข่มขู่ให้ต้องปรับนายวิรัช ออกจากตำแหน่งดังกล่าว