ทราบดีว่าการคว้าอำนาจคืนมาจากคณะรัฐประหารที่ครองอำนาจในประเทศไทยอยู่นั้นไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่ายๆ แต่ท้ายที่สุดแล้วพรรคอนาคตใหม่ที่เขาร่วมก่อตั้งขึ้นมาก็ได้รับคะแนนเสียงมากถึง 17% ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาในปีนี้ ไม่แย่เลยสำหรับพรรคการเมืองที่เพิ่งจะมีอายุครบ 1 ปีไปหมาดๆ
อย่างไรก็ตาม ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้เป็นเศรษฐีพันล้านและทายาทยักษ์ใหญ่กิจการชิ้นส่วนรถยนต์ ก็ประสบความสำเร็จในการ"ปลุกไฟ"ในใจของเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่แห่กันมาร่วมภารกิจหยุดยั้งวงจรการรัฐประหารและการสูญเสียเลือดเนื้อจากการประท้วงบนท้องถนน ซึ่งเป็นชนักติดหลังประเทศไทยมากว่า 80 ปีแล้ว
ในความท้าทายอันแสนเข็ญนี้ เหล่านายพลในกองทัพก็ตอบโต้ธนาธรด้วยการฟ้องร้องดำเนินคดีจำนวนมากเพื่อหวังผลทางการเมืองทั้งสิ้น เขายืนยันว่าตนเองยังตั้งมั่นอยู่กับการก่อร่างสร้างความเข้มแข็งแก่การเคลื่อนไหวของเขาในสภา แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้าคดีความมากมายก็ตาม..
"ตราบใดที่เหล่านายพลยังอยู่ในอำนาจ การต่อสู้ของพวกเราก็ยังคงต้องดำเนินต่อไป"
สุดท้าย ธนาธรกล่าวว่า"กระบวนการนำมาซึ่งประชาธิปไตย การแยกกองทัพออกจากการเมือง และการกระจายอำนาจ นี่คือหัวใจของพวกเรา"
แต่ ธนาธร ยิ้มได้ไม่ถึง24ชั่วโมงก็ต้องเปิดแถลงใหญ่ตัดหน้าศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะแถลงคำตัดสินคดีหุ้นสื่อวีลัคมีเดียในวันที่ 20 พ.ย.นัยว่า ธนาธร น่าจะพอทราบชะตากรรม"ตัวเองล่วงหน้าว่า ศาลฯจะตัดสินเป็นคุณหรือเป็นโทษ
แต่ข่าวธนาธร ไม่อาจกลบข่าว"เสี่ยหนู" อนุทิน ชาญวีรกุลหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และศักดิ์สยาม ชิดชอบเลขาธิการพรรคได้
ทั้งสองคนโด่งดังจากการที่ฝ่ายค้านประกาศ"จองกฐิน"ในการซักฟอกไม่ไว้วางใจ เป้าไปอยู่ที่ ศักดิ์สยาม เพราะว่ากระทรวงคมนาคม มีเมกะโปรเจคเยอะ
แต่ใครจะหารู้ไม่ว่า ศักดิ์สยาม อาจเป็นเป้าลวงหรือเป้าหลอก ศักดิ์สยาม เองระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ รู้ว่าจะมีคนจับตามองเป็นพิเศษที่มานั่งว่าการกระทรวงนี้
ดังนั้นฝ่ายค้านอาจสับขาหลอก ปล่อยข่าวว่าจะซักฟอก"ศักดิ์สยาม" เพื่อให้รัฐมนตรีคนอื่นของภูมิใจไทยตายใจ โดยเฉพาะ"เสี่ยหนู" หัวหน้าพรรค
แหล่งข่าวในเพื่อไทย อาจจะใส่ชื่อ "เสี่ยหนู"เข้าไปด้วย กลายเป็นเป้าจริง เพราะมีเรื่องสารพิษ และนโยบายกัญชาเสรี มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ทั้งที่ลาวและจีน ที่ฝ่ายค้านเก็บข้อมูลเอาไว้เพียบ
"เสี่ยหนู"เลยอารมณ์บ่จอย ไปฟาดงวงฟาดงาใส่"เนชั่น"และไปขู่นายกฯประยุทธ์ จันทร์โอชาว่าหากพรรคร่วมรัฐบาลไม่ยกมือให้ ศักดิ์สยาม แล้วมีการปรับครม.โดยเอาศักดิ์สยามออก ต้องเอาเสี่ยหนูและภูมิใจไทย ออกด้วย
เรื่องนี้ถึงหูครูใหญ่ นายกฯตวาดกลับเสียงดังเลยทันที ไม่มีใครไปต่อรองหรือข่มขู่นายกฯได้ การที่เสี่ยหนู จะเอาเสียง50เสียงไปขู่จะถอนตัวจากรัฐบาลนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้หวั่นวิตก
เพราะหากภูมิใจไทยออกก็มีพรรคสำรองที่จะหาเสียงมาเติมให้รัฐบาลได้ไปต่อ แต่ถ้าหาไม่ได้จริงๆ นายกฯก็เลือกวิธี "ลาออก"เพื่อล้างไพ่เลือกนายกฯฟอร์มรัฐบาลกันใหม่
มีส.ว.250เสียงอยู่ในมือ ไม่เห็นจะยากเลย ยังไงได้เป็นนายกฯอีก แต่ภูมิใจไทยจะไปเป็นฝ่ายค้าน ต่อไปก็ไม่สามารถรับงานรัฐได้ รับรองอดอยากปากแห้ง
หมอดูบอกแล้วว่าดวงนายกฯแข็งสุดๆ