ช่วงบ่ายวันที่ 20 พ.ย.นี้ ต้องติดตามการแถลงคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาอย่างไร? กับการชี้ชะตาทางการเมืองของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ว่าจะขาดคุณสมบัติในการเป็น ส.ส.หรือไม่ กรณีถือหุ้นสื่อ
ก่อนถึงช่วงเวลาระทึกเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์การเมืองของไทย ทาง ”รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย” อาจารย์สาขาวิชาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ได้วิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ ”ธนาธร” จะรอดหรือร่วง กับ ”ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์”
กรณีรอด มีผลในทางการเมือง และกฎหมาย
ในแง่การเมืองจะทำให้ธนาธรสามารถปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.อย่างสมบรูณ์แบบ และเรียกความเชื่อมั่นของพรรคอนาคตใหม่กลับคืนมา จากที่ขณะนี้สถานการณ์พรรคกำลังก้าวสู่ขาลง มีสมาชิกพรรคและกรรมการบริหารพรรค ทยอยลาออก
หากผลออกมาเป็นทางบวก แน่นอนยิ่งทำให้เสถียรภาพและความเชื่อมั่นต่อบุคลากรของพรรคอนาคตใหม่จะเริ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และทำให้ฐานคะแนนเสียงของพรรคกลับมาสูงขึ้นเช่นเดิม
ในแง่กฎหมาย จะทำให้กรณีถือหุ้นสื่อของทั้ง ส.ส.ฝ่ายค้านและรัฐบาล ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องเพื่อวินิจฉัยสมาชิกภาพ ว่าเข้าข่ายต้องห้ามตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้หรือไม่ จะนำกรณีของธนาธรไปเป็นบรรทัดฐานในการวินิจฉัยต่อไป
กรณีร่วง จะมีผลอย่างไรต่อธนาธร หรือพรรคอนาคตใหม่
แน่นอนหากธนาธรมีความผิดจริงกรณีถือหุ้นสื่อ จะทำให้สิ้นสภาพความเป็นส.ส.โดยสมบูรณ์ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างถาวร
ต้องจับตาดูต่อไป จะนำไปสู่การดำเนินคดีอาญา และนำไปสู่การยุบพรรคอนาคตใหม่หรือไม่ หากธนาธรถูกดำเนินคดีอาญาถึงที่สุด จะไม่สามารถเล่นการเมืองทั้งระดับชาติและท้องถิ่นได้ โดยกฎหมายมีบทบัญญัติการลงโทษจำคุกมากถึง 20 ปี
หากพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ จะทำให้บรรดากรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตามไปด้วย จนเกิดปรากฏการณ์ ”ผึ้งแตกรัง” หากคุมสถานการณ์อยู่ ส.ส.อาจย้ายไปพรรคอื่นที่มีการจดทะเบียนกับ กกต.ไว้แล้ว
กรณีพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ หากคุมสถานการณ์ไม่ได้ อาจทำให้ ส.ส.ย้ายไปอยู่พรรคในรัฐบาล ทำให้โครงสร้างในสภาเปลี่ยนดุล เพิ่มอำนาจให้กับรัฐบาล ไม่ตกอยู่ในสถานการณ์เสียงปริ่มน้ำอีกต่อไป อาจมี ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ อย่างน้อย 50 คน ไปอยู่พรรครัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ”รศ.ดร.ยุทธพร” ทิ้งท้ายโดยมองทิศทางอยู่ 3 ทาง คือ 1.ยกคำร้อง 2.มีความผิด แต่ขาดเจตนา นำไปสู่การพ้นสภาพ ส.ส. แต่ไม่ห้ามเล่นการเมือง และ 3.มีความผิดถือหุ้นสื่อ รวมถึงถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ทั้งนี้โอกาสทางที่ 2 และ 3 มีสูงถึง 60% ส่วนทางที่ 1 มีโอกาสเพียง 40% เนื่องจาก กกต.ผ่านการสืบสอบหาข้อเท็จจริง จนมีมติส่งสำนวนโดยตรงให้ศาลรัฐธรรมนูญทำการวินิจฉัย ซึ่งแตกต่างกับกรณี ส.ส.รัฐบาลและฝ่ายค้านถือหุ้นสื่อ ซึ่ง ส.ส.แต่ละฝ่ายมีการยื่นผ่านประธานรัฐสภาไปยังศาลรัฐธรรมนูญ
พร้อมให้จับตาหลังจากนี้จะมีแรงกระเพื่อมเคลื่อนไหวจาก "ธนาธร" อย่างต่อเนื่อง หลังล่าสุดประเดิมด้วยการมอบหมายทีมทนายความของพรรคอนาคตใหม่ ยื่นฟ้อง 7 กกต.ด้วยข้อกล่าวหาประพฤติมิชอบ เหตุเร่งรัดคดีถือหุ้นสื่อส่งฟ้องศาลรัฐธรรมนูญ.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ด่วน “ธนาธร” หลุด ส.ส. หลังศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยมีลักษณะต้องห้าม
- "ช่อ พรรณิการ์" เผยหลัง "ธนาธร" พ้น ส.ส. ยังเป็นหัวหน้าพรรค-แคนดิเดตนายกฯ
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
- ภรรยา "ธนาธร" เสียใจแทนสามี พ้นสภาพส.ส. บอกที่ผ่านมาเตรียมใจไว้แล้ว
- "อนาคตใหม่" ยก 9 ข้อ ก่อนลุ้น ฟังคำวินิจฉัยศาล คดี "ธนาธร" ถือหุ้นสื่อ
- “ธนาธร” ปะทะ “ชูวิทย์” ปมถือครองหุ้นสื่อ เพราะอะไรทำไมถึงคิดแตกต่าง (คลิป)
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath
