โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

"ธนาธร-ปิยบุตร"พลิกโอกาสเป็น"วิกฤต"แกว่งปากเสี่ยงคุกเพิ่มศัตรู !?

Manager Online

อัพเดต 23 พ.ค. 2562 เวลา 19.02 น. • เผยแพร่ 23 พ.ค. 2562 เวลา 19.02 น. • MGR Online

เมืองไทย 360 องศา

ต้องถือว่าก่อนหน้านี้สำหรับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่และ ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค เป็น"คู่หู"การเมืองที่น่าจะมีอนาคตไกล เป็น"ดาวรุ่ง"พุ่งแรงจนหลายคนคาดไม่ถึง เมื่อผลการเลือกตั้งล่าสุดออกมาปรากฏว่าพรรคนี้ได้รับเลือกตั้งเข้ามาทั้งระบบ ส.ส.แบบเขตและบัญชีรายชื่อรวมกันถึง 80 ที่นั่ง ชนิดที่เรียกว่าตัวเองก็คาดไม่ถึง แม้ว่าสาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีปัจจัยประกอบอย่างอื่นปะปนมาด้วย เช่นการเทคะแนนจากเครือข่ายของ "ระบอบทักษิณ" กรณียุบพรรคไทยรักษาชาติ

แต่มาถึงวันนี้สถานการณ์และบรรยากาศทำท่าพลิกผันเป็นตรงกันข้าม จาก"ดาวรุ่งพุ่งแรง"มีแนวโน้มเป็นแบบ"ผีพุ่งใต้"ที่สว่างวาบแล้วก็หาบวับไป เพราะพิจารณาจากหลายเรื่องที่ประดังเข้ามาหาทั้งคู่ ทั้ง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ ปิยบุตร แสงกนกกุล ล้วนมีความเสี่ยงในระดับ"ขั้นสูง"แทบทั้งสิ้น นั่นก็คือ"เสี่ยงคุก" เสี่ยงทั้งถูกยุบพรรคอนาคตใหม่ รวมไปถึงคนรอบข้างที่เป็นเครือญาติในครอบครัวอาจต้องติดร่างแหไปด้วย จากกรณีข้อสงสัยเรื่องการโอนหุ้นบริษัทที่ทำธุรกิจสื่อสารมวลชน วี-ลัค มีเดีย จำกัด เป็นต้น

เพราะเมื่อพิจารณาจากคดีต่างๆที่พวกเขาพัวพันมากมาย ซึ่ง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เคยเปิดเผยออกมาเองว่าเขามีคดีติดตัวในเวลานี้อยู่ 16 คดี ส่วน ปิยบุตร แสงกนกกุล แม้จะไม่ได้บอกให้ทราบแต่ก็เชื่อว่ามีหลายคดีเช่นเดียวกัน แน่นอนว่าสำหรับ ธนาธร การเปิดเผยคดีออกมาดังกล่าวทางหนึ่งเป็นเจตนาฟ้องสังคมให้เห็นทำนองว่าเขา"ถูกรังแก"จากฝ่ายอำนาจ เหมือนกับก่อนหน้านี้เมื่อครั้งไปรับทราบข้อหาจากตำรวจตามหมายเรียกจากคดีฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ก็นำ"ฝรั่ง"จากสถานทูตตะวันตกไปเป็นร่วมกดดันหลายคน

แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ ทั้งธนาธร และ ปิยบุตร แทนที่จะใช้"โอกาส"ที่สังคมมอบให้ เป็นประโยชน์ อย่างน้อยในทางการเมือง ให้สมกับชื่อ"พรรคอนาคตใหม่" แต่กลายเป็นว่าพวกเขากำลังพลิก "โอกาสให้เป็นวิกฤติ"ได้เร็วอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งทุกอย่างล้วนเกิดมาจาก"ปาก"ทั้งสิ้น

สำหรับกรณีของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จากคดีหุ้นวี-ลัค มีเดียฯ แม้ว่าสาเหตุหลักมาจากการเปิดโปงของสำนักข่าวอิศรา รวมทั้งความเป็นจริงก็ว่ากันไป แต่ที่ทำให้เกิดการ"บานปลาย"ลุกลามส่วนสำคัญล้วนมาจาก"ปาก"ของเขาเองทั้งสิ้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ"มีกุนซือ"ที่ด้อยประสบการณ์ ไม่แม่นข้อกฎหมาย เพราะยิ่งชี้แจง มีการนำเสนอหลักฐานมาโต้แย้ง กลับกลายเป็นว่ายิ่งเปิดประเด็นข้อสงสัยใหม่เพิ่มเติมมาอีก ที่สำคัญฟังแล้ว"ไม่เนียน"และคนละเรื่องกับคำถามหรือข้อสงสัย

หรืออย่างกรณีล่าสุดที่เกี่ยวกับเรื่อง"ปล่อยกู้"ให้กับพรรคอนาคตใหม่จำนวน 110 ล้านบาทโดยมีเพดานจำนวน 250 ล้านบาท ก็เป็นผลมาจาก"ปากของตัวเอง"ที่ไป"โชว์ออฟ"ระหว่างที่ไปพูดที่สโมสรผู้สื่อต่างประเทศฟังและเปิดเผยเรื่องดังกล่าวออกมา และก็เป็นเรื่องอีกตามเคย และคราวนี้ก็มีความเสี่ยงแบบ"เลวร้าย"ไม่ต่างจากกรณีโอนหุ้นบริษัทวี-ลัคมีเดียฯที่ทำธุรกิจด้านสื่อสารมวลชน ที่สุ่มเสี่ยงต่อเรื่อง"คุณสมบัติต้องห้าม"ในการใช้สิทธิ์รับสมัคร ส.ส.

และหากพิจารณากันทีละช็อต สำหรับเรื่องแรกกรณีถือหุ้นสื่อหากศาลรัฐธรรญชี้ขาดออกมาในทางลบมันก็มีเรื่องน่าหวาดเสียวตามมาอย่างต่อเนื่องหลายเรื่อง ทั้งเรื่องคุก ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง และอาจลุกลามไปถึงคนรอบข้างในครอบครัวหรือไม่ก็ต้องชวนติดตาม ขณะที่เรื่อง"เงินกู้"นอกจากเสี่ยงในเรื่องคดีอาญาคุกไม่คุกเหมือนกับกรณีแรกแล้วยังอาจพ่วงให้เลวร้ายถึงขั้น"ยุบพรรค"ตามมาอีกด้วย โดยเฉพาะใน พ.ร.ป.พรรคการเมืองปี 60 มาตรา 62 ที่แตกต่างจาก พ.ร.ป.พรรคการเมืองปี 50 โดยไม่มีบทบัญญัติเรื่องรายได้อื่นแล้ว โดยกำหนดประเภทของรายได้พรรคการเมืองไว้ 7 ประการ โดยเฉพาะไม่มีเรื่องเงินกู้ระบุเอาไว้แต่อย่างใด

สำหรับ ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ที่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เขาออกมาชี้แจงแก้ต่างให้กับ ธนาธร และพรรค แต่กลับไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น ทำนองยิ่งพูด"ยิ่งทรุด"หนักกว่าเดิม เช่นบอกว่า พรรคการเมืองต่างประเทศก็มีการกู้เงินมาใช้จ่าย ทำกิจกรรม และบอกว่าในเมื่อกฎหมายไม่ได้กำหนดห้ามเอาไว้ชัดเจนก็สรุปว่าไม่ได้ห้าม นั่นคือทำได้ พร้อมทั้งอ้างอิงอีกว่าพรรคอื่นในไทยอีกหลายพรรคก็มีการกู้ยืมเงินแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นพรรคชาติไทยพัฃมนา ประชาธิปัตย์ ประชาธิปไตยใหม่เป็นต้น

ซึ่งก็ได้ผลถูกบรรดาพรรคการเมืองที่ถูกพาดพิงดังกล่าวออกมาตอบโต้สอนมวยกันจนหน้าหงาย ทำให้นาทีนี้ได้แต่สงสัยว่า ปิยบุตร เขามีเข้าใจเรื่องกฎหมายประเภทไหนกันแน่ ทั้งระบบคิด การชี้แจงแสดงหลักฐานอ้างอิงที่ฟังดูแล้วแทบไม่มีน้ำหนัก ตรงกันข้ามกลับมีจุดอ่อน เปิดช่องให้ฝ่ายตรงข้ามได้ตอบโต้

ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากบทบาทของทั้งคู่ในเวลานี้ล้วนเดินอยู่ในความเสี่ยงมากขึ้นเรื่อยๆ แทนที่จะใช้วิกฤติเป็นโอกาส แต่กลับกลายเป็นว่าพวกเขากลับกำลังพลเกโอกาสเป็นวิกฤติอย่างไม่น่าเชื่อและอย่างรวดเร็ว มิหนำซ้ำมีแต่ใช้ปากสร้างศัตรูในทางการเมืองเพิ่มขึ้นได้ทุกวันเช่นเดียวกัน จนน่าจับตาว่า จะเป็น"อนาคต"แบบไหนกันแน่ !!

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0