โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ธนาคารโลกชี้การเมืองป่วนเศรษฐกิจไทย คาดปี62 จีดีพีโต 3.8%

Money2Know

เผยแพร่ 24 เม.ย. 2562 เวลา 04.02 น. • money2know - เงินทองต้องรู้
ธนาคารโลกชี้การเมืองป่วนเศรษฐกิจไทย คาดปี62 จีดีพีโต 3.8%

ธนาคารโลกจัดการประชุมทางไกลผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ วิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก คาดปี 62 โตช้าทั้งภูมิภาค จากเศรษฐกิจโลกชะลอ ส่วนไทยการเมืองมีผลกระทบเศรษฐกิจ คาดจีดีพีปี 62 โต 3.8%

นายแอนดรู เมสัน รักษาการหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก กล่าวว่า เศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกคาดว่าจะเติบโตร้อยละ 6.0 ในปี 62-63 จากเดิมที่เคยเติบโตร้อยละ 6.3 เมื่อปี 61 ซึ่งเป็นผลจากแรงลมต้านเศรษฐกิจโลกและจากการที่จีนมีนโยบายชัลอการเติบโตทางเศรษฐกิจ   แต่เศรษฐกิจของภูมิภาคยังคงรอดพ้นจากความผันผวนทางการเงินเมื่อปี 61 ได้เป็นอย่างดีเนื่องจากกรอบนโยบายที่มีประสิทธิภาพ และพื้นฐานเศรษฐกิจที่มั่นคง รวมถึงเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายด้านผลผลิต อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่มีความยืดหยุ่น และนโยบายการคลังที่เข้มแข็ง   รายงาน East Asia and Pacific Update เดือนเม.ย.62 ภายใต้ชื่อ การจัดการลมต้านเศรษฐกิจโลกที่เปิดตัววันนี้(24 เม.ย.) พบว่าในขณะที่ความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าโลกผ่อนคลายลง การค้าโลกปีนี้น่าจะเติบโตแบบชะลอตัวลง นอกจากนี้รายงานยังนำเสนออีกว่า ความต้องการบริโภคภายในประเทศของภูมิภาคนี้ยังคงเข้มแข็ง ซึ่งช่วยทดแทนผลกระทบจากการส่งออกที่ชะลอตัวลง   การที่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้สามารถรับมือกับการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยืดหยุ่นจะช่วยให้ความยากจนลดลง ซึ่งถือว่าได้ลดลงอย่างเป็นประวัติการณ์แล้วภายในปี 64 คาดว่าอัตราความยากจนขั้นรุนแรงจัลดต่ำร้อยละ 3   ขณะเดียวกันยังมีคนอีก 500 ล้านคนในถูมิภาคนี้ที่ยังขาดความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะกลับไปยากจนอีกครั้ง เรื่องนี้ยังคงเป็นความท้าทายที่ผู้กำกนดนโยบายต้องคำนึงถึงด้วย   ขณะที่ประเทศจีนยังคงใช้นโยบายเพื่อการชะลอเศรษฐกิจซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจจีนเติบโตร้อยละ 6.2 ในปี 62-63 ลดลงจากร้อยละ 6.6 เมื่อปี 61 เศรษฐกิจของมาเลเซียและอินโดนีเซียคาดว่าจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงในปีนี้ ขณะที่เศรษฐกิจไทยและเวียดนามชะลอตัวเล็กน้อย   ในส่วนฟิลิปปินส์นั้น การอนุมัติงบประมาณของรัฐบาลประจำปี 62 ที่ล่าช้าอาจส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศไม่เติบโตเท่าที่ควรจะเป็นในปีนี้ และคาดว่าเศรษฐกิจน่าจะกลับมาเติบโตอีกครั้งในปี 63   ประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดเล็กในภูมิภาคนี้คาดว่าเศรษฐกิจยังคงเติบโตในระดับน่าพอใจ โครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่จะช่วยให้เศรษฐกิจ สปป.ลาว และมองโกเลียเติบโตดีขึ้น เศรษฐกิจของกัมพ฿ชานั้นคาดว่าจะเติบโตอย่างเข้มแข็ง แม้ว่าจะเติบโตช้ากว่าปีที่เเล้วเล็กน้อย   เนื่องจากความต้องการบริโภคจากภายนอกประเทศอ่อนตัวกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่วนเมียนมานั้น คาดการณ์ว่านโยบายการคลังแบบขยายตัวจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจขอบเมียนมาในระยะสั้น และคาดว่าการปฏิรูปโครงสร้างจะช่วยสนับสนุนการเติบโตในระยะปานกลาง   ด้านเศรษฐกิจของปาปัวนิวกินีคาดว่าน่าจะดีขึ้นในปี 63 เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อปี่ที่ผ่านมา ส่วนการเติบโตทางเศรษฐกิจของฟิจินั้นคาดว่าจะสดใสอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นไปในทิศทางที่ช้าลง เนื่องจากความพยายามในการฟื้นฟูบูรณะหลังจากโดนพายุไซโคลนถล่มใกล้สำเร็จแล้ว   ในขณะที่เเนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกส่วนใหญ่ยังคงเป็นไปในด้านบวก แต่เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องตระหนักว่าภูมิภาคนี้ยังต้องเผชิญกับความกดดันทางเศรษฐกิจที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 61 และยังสามารถส่งผลกระทบด้านลบได้อีก   ความไม่แน่นอนยังเกิดขึ้นได้ในหลายปัจจัย รวมทั้งการที่ชะลอตัวของประเทศที่มีเศรษฐกิจก้าวหน้า โอกาสที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัวเร็วกว่าที่คาดการ์เอาไว้ รวมถึงปัญหาความตึงเครียดทางการค้าที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งลมต้านเศรษฐกิจเหล่านี้ต้องมีการจัดการอย่างเข้มแข็ง   ในการจะเปชิญความเสี่ยงที่ยังคงมีอยู่นี้ รายงานได้ให้ข้อมูลอย่างละเอียดในการรับมือทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยในระยะสั้นนั้น รายงานได้เรียกร้องเพิ่มความสามารถการนโยบายการคลัง โดยการเพิ่มเงินสำรองต่างประเทศ ซึ่งได้ลดลงหลังจากมีการจัดการลดอัตราความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน้งินตราต่างประเทศเมื่อปี 61 นอกจากนี้ยังต้องมีนโยบายปรับการเงินให้มีความเป็นกลางมากขึ้น เนื่องจากเงินทุนไหลออกนอกประเทศได้ลดลงอย่างมาก รายงานนี้ยังได้เน้นถึงความสำคัญของการปฏิรูปโครงสร้างอย่างต่อเนื่องในระยะปานกลาง เพื่อเพิ่มผลิตภาพ กระตุ้นขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างโอกาสที่ดีกว่าสำหรับภาคเอกชน และเสริมสร้างความเข้มเเข็งให้กับทุนมนุษย์ ของแต่ละประเทศ   อย่างไรก็ตามความเสี่ยงบางประการที่เพิ่มขึ้นเน้นมห้เห็นถึงการลงทุนที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องด้านโครงการทางสังคมและปีะกันเพื่อปกป้องกลุ่มคนที่มีความเปราะบาง ทุกวันนี้ประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกให้ความคุ้มครองทางสังคมครอบคลุมกลุ่มคนยากจนที่สุดเพียงร้อยละ 20 ต่ำสุดเมื่อเทียบกับประเทศกำลังพัฒนาภูมิภาคอื่น   ทั้งนี้ประเทศในหมู่เกาะแปซิฟิกต้องจัดการเรื่องความมั่นคงด้านหนี้สาธารณะให้ได้ ด้วยการปรับปรุงระบบการบริหารจัดการหนี้สาธารณะของประเทศหมู่เกาะเเปซิฟิกจะอยู่ในระดับต่ำ แต่ปัจจัยด้านโครงสร้าง รวมถึงแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะยาวที่อยู่ระดับปานกลาง   ความเสี่ยงเรื่องภัยพิบัติทางธรรมชาติสูง และบริการภาครัฐและโครงสร้างพื้นฐานมีมูลค่าสูงส่งผลให้ประเทศในหมู่เกาะแปซิฟิกมีความเสี่ยงจากความยุ่งยากในเรื่องหนี้สาธารณะสูง   ด้านนายเกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสประจำประเทศไทยรับผิดชอบด้านการประเมินเศรษฐกิจมหภาคและการปฏิรูปโครงสร้างในไทย กล่าวทิ้งท้ายว่าการพยากรณ์ทิศทางเศรษฐกิจประเทศไทยนั้น เชื่อว่าการลงทุนในประเทศยังมีความสอดคล้องกับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่   เมื่อไรก็ตามที่มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ธนาคารโลกอยากเห็นการสานต่อในหลายๆโครงการเช่นโครงการ EEC ที่อาจจะได้ดำเนินงานต่อด้านเทคนิคเพื่อให้การเติบโตในการลงทุนดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะมีผลต่อจีดีพีในประเทศด้วย   แต่ถ้าหากมีการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าจะส่งผลเสียกับการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนนี้การลงทุนเอกชนที่ไม่แน่นอนจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว แต่สถานะการเงินในประเทศยังคงดีพอที่จะให้รัฐบาลสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้   ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนปีที่เเล้วมีความเข้มแข็ง แต่ว่าความต้องการภายนอกประเทศกลับมีความต้องการลดลง ดังนั้นรัฐบาลต้องเสริมความแข็งแรงในการลงทุนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ประเทศต้องมีแรงงานที่มีฝีมือเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมในประเทศด้วย คาดการณ์จีดีพีไทยเติบโต 3.8% ในปี 62 และปี 63 คาดโต 3.9%

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0