‘ธนาคารหน้ากาก’ แมสก์ 2.50 บาทมีจริง ส่งถึงบ้าน ไอเดียสาวไทย ‘สู้โควิด-19’

ธนาคารหน้ากาก – หน้ากากอนามัย ถือเป็นอุปกรณ์แรกที่จะช่วยป้องกันเราจากเชื้อโรค รวมไปถึงฝุ่นละอองขนาดเล็ก แต่คนไทยกลับไม่สามารถหาซื้อหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ได้ บ้างก็ต้องซื้อในราคาที่สูง ซึ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ ไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 นี้ ก็ดูเหมือนไม่มีทีท่าที่จะสิ้นสุดลงในเร็ววันนี้

นี่เอง ทำให้บิ๊นท์ เภสัชกรหญิง สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์ นางสาวไทยปี 2562 และมิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2019 จับมือกับ ฟ้า-ปรางพิสุทธิ์ แดงเดช นักเดินทางและผู้ก่อตั้ง Play with Robot เปิดตัวโครงการธนาคารหน้ากาก ระดมทุนเพื่อผลิตหน้ากากให้ประชาชนซื้อได้ในราคา 2.50 บาท พร้อมส่งตรงถึงบ้าน และได้ร่วมบริจาค 1 ชิ้นให้กับผู้มีความต้องการ พร้อมร่วมเชิญชวนติด #หน้ากาก2บาท50มีจริงส่งถึงบ้าน #ใช้1ให้1 #get1give1 โดยแถลงข่าวเปิดตัว ณ ห้องประชุมชั้น 42 อาคารแมคโนเลียส์ ไอคอนสยาม

เภสัชกรหญิงสิรีธร เริ่มต้นเล่าถึงที่มาของโครงการว่า ช่วงเริ่มแรกที่โคโรนากำลังระบาดที่ประเทศจีน บิ๊นท์คิดว่านี่มันเป็นโรคอุบัติใหม่ มีความเสี่ยงที่จะกระจายไปทั่วโลกสูงมาก จึงเริ่มทำโครงการเดอะแมสก์ชาเลนจ์ ให้ทุกคนใส่หน้ากากอนามัยกัน

“พอทำได้เดือนกว่าๆ มันก็แพร่ระบาดไปทั่วโลกจริงๆ ก็เห็นว่าหน้ากากอนามัยขาดแคลน อย่างบิ๊นท์ไปเดินห้างลืมแมสก์ จำเป็นต้องใช้จริงๆ ต้องซื้อมาในราคา 30 บาท อีกครั้งหนึ่งซื้อมา 100 บาท ซึ่งคนที่เขาทำงานมีรายได้วันละ 300 จะนำเงิน 100 บาท มาซื้อก็คงไม่ได้”

“ยิ่งถ้าเปิดในโซเชียลมีเดียจะพบว่าคนพูดถึงปัญหานี้เยอะมาก ยิ่งเราอยู่ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ เห็นประโยคที่ว่า“เหมือนให้ออกรบ แต่ไม่แจกอาวุธ” ยิ่งรู้สึกว่าเราต้องทำอะไรบางอย่าง ซึ่งบิ๊นท์เองก็คิดว่าเราได้เป็นถึงตัวแทนประเทศ เราควรต้องทำอะไรบางอย่าง ซึ่งมันถึงเวลาแล้ว” น้ำเสียงมุ่งมั่น

ด้านปรางพิสุทธิ์ เผยว่า พอเราสองคนได้มาคุยกัน คิดว่าเราต้องเริ่มลงมือจริงๆ เลยออกมาเป็นโครงการธนาคารหน้ากาก โดยเปิดให้คนเข้ามาสั่งจองผ่านช่องทางออนไลน์ 1 ชิ้น 2.50 บาท แต่ต้องบริจาคอีก 1 ชิ้น ให้กับหน่วยงานต่างๆ หรือบริจาคให้ธนาคารหน้ากาก เพื่อเก็บไว้ใช้หากมีผู้ร้องขอ หรือมีสถานการณ์เช่นนี้อีก ซึ่งเรามีต้นแบบจากธนาคารเลือดที่เกิดในช่วงสงครามที่ทุกคนก็ขาดแคลน เราจึงตั้งเป้าหมายระยะยาว หากเกิดวิกฤตอีกเราจะได้มีพอใช้ทันที

“เบื้องต้นเปิดให้สั่งจองผ่าน maskbank.org ขั้นต่ำคนละ 1,000 บาท คือผู้จองได้ 200 ชิ้น และบริจาค 200 ชิ้น เพื่อระดมทุนสำหรับการผลิต เมื่อเราได้ครบเป้าหมายระยะแรกคือ 1 แสนราย จะสามารถตั้งโรงงานผลิตออกมาได้ ใช้ระยะเวลาเตรียมการผลิต 6-8 สัปดาห์ ซึ่งจะผลิตได้ 120,000 ชิ้นต่อวัน หรือ 43,200,000 ชิ้น ต่อปี โดยจะจัดส่งให้กับทุกคนผ่านไปรษณีย์เป็นรายเดือน เพื่อป้องกันการกักตุนสินค้า” ปรางพิสุทธิ์เผย

เภสัชกรหญิงสิรีธร เผยว่า ที่เราเปิดให้สั่งคราวละมากๆ เพื่อจะได้ให้คนรู้ว่าเรามีสำรองไว้เพียงพอ คนจะได้ไม่ต้องซื้อไปกักตุนอีก เป็นหลักจิตวิทยาหนึ่ง ช่วงแรกอาจจะต้องรอแมสก์นานหน่อย จึงเป็นเหตุผลให้เราต้องรีบประชาสัมพันธ์โครงการนี้ โดยโรงงานของเราได้ที่ตั้งและมีแหล่งเครื่องจักรแล้ว ได้รับความร่วมมือจากอาจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือที่ตรวจสอบคุณภาพของแมสก์ ปัญหานี้เป็นสิ่งที่รอไม่ได้ และอย่างไรก็ตาม แมสก์ก็ยังจำเป็นต้องใช้ในระยะยาว อย่างปัญหาพีเอ็ม2.5 ก็คงจะอยู่กับเราอย่างน้อยเป็นสิบปี

“องค์การอนามัยโลก เผยออกมาแล้วว่า เชื้อไวรัสโคโรนาจะอยู่ในอากาศได้อย่างน้อย 3 ชั่วโมง และพลาสติกได้นาน 72 ชั่วโมง หมายความว่าหากคนที่ติดเชื้อจามออกมา คนที่เดินทางมาที่เดียวกันอาจสัมผัสเชื้อก็ได้ การใส่แมสก์และล้างมือบ่อยๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันเราส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ก็ควรอยู่บ้าน ตระหนักแต่ไม่ตระหนก คนที่เดินทางกลับบ้านก็ควรกักตัว ไม่ใกล้ชิดผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มเสี่ยง หากอยู่บ้านแล้วเบื่อก็อาจทำอะไรที่ผ่อนคลาย เมื่อไหร่ที่รู้สึกซึมให้รีบเปลี่ยนโฟกัส ก็จะช่วยได้เยอะ” บิ๊นท์เผย

ซึ่งนอกจากจะเปิดให้คนสั่งจองหน้ากากอนามัยได้แล้วนั้น ธนาคารหน้ากาก ก็ยังมีส่วนของการขอรับบริจาค ให้เข้าไปกรอกแบบฟอร์มได้เช่นกัน

ขณะที่นพ.นพดล พงษ์พิสุทธินันท์ แพทย์เวชศาสตร์ป้องกัน แพทย์จิตอาสาโควิด-19 ที่มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ให้ความรู้ว่า มีผลการศึกษาต่างๆ ออกมาว่าเชื้อโควิดนั้นแพ้รังสียูวีซี เนื่องจากจะทำให้ละออง

น้ำนั้นระเหย เราจึงควรอยู่ในสถานที่ที่อากาศถ่ายเท ทั้งนี้ อาการที่แสดงออกนั้นแตกต่างกันอยู่ที่ระยะของโรค เชื้อจะเริ่มต้นที่จมูก ปาก เยื่อเมือกต่างๆ อาการบ่งชี้เริ่มต้นก็อาจเป็นไอ เจ็บคอ ไข้ต่ำๆ น้ำมูกไหล

“การป้องกันตัวจากโควิดที่ดีคือต้องปรับพฤติกรรม เริ่มจากเราต้องสุขภาพดี อยู่ในที่ถ่ายเท ใส่หน้ากากอนามัย เพื่อไม่ให้รับเอาละอองฝอยต่างๆ เข้าไป ล้างมือบ่อยๆ เพราะเชื้อโควิดนั้นสามารถแพร่กระจายในแห่งที่ไม่ทราบสาเหตุได้ ยึดหลัก กินร้อน แยกอาหาร ล้างมือ ยืนห่าง 2 เมตร บางคนที่นำเอาหมวกที่มีพลาสติกครอบ หรือเฟซชีลด์มาใช้ ก็เป็นการป้องกันได้ส่วนหนึ่ง เพราะเชื้อโรคนั้นลอยอยู่ในอากาศ ก็ควรใส่แมสก์กันอีกที” นพ.นพดลเผย

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งช่วยโลกระยะยาว