ท่าทีและน้ำเสียงขึงขังน่ากลัว ไม่นุ่มนวลอ่อนหวาน เหมือนตอน…เลย ก็แหม ตอนที่เราต้องขอให้ใครทำในสิ่งที่ต้องการ เราก็มักจะพูดจาอ่อนหวาน อ่อนโยนกันทั้งนั้นแหละ แล้วสถานการณ์ไหนบ้างล่ะ ที่เรามักทำเสียงสอง อ่อนหวานในชีวิตประจำวัน
สมัครเข้างาน
ตอนเกาะโต๊ะสมัครงาน ก็พูดเสียงอ่อนหวานว่า หนูทำได้ค่ะ / ผมทำได้ครับ ยิ้มแย้มอ่อนหวาน อ่อนโยน แต่พอตอนเข้ามาทำงานก็อีกเรื่องนึงนะ
ขอให้ช่วยทำงาน
เอาตรงนี้เพิ่ม / ตรงนี้แก้หน่อยนิดนึง / ช่วยหน่อยนะ หลากหลายประโยคอ่อนหวาน ใจดี เวลาหัวหน้าขอให้เราช่วยตรงนั้นตรงนี้ แต่พอตอนสั่งงานกับตอนทวงงานนี้ก็อีก version นึงนะ
อ้อนแฟนซื้อของ
เวลาตอนทะเลาะเสียงแข็ง ดุ เหมือนมีองค์ร่างอื่นมาสิง แต่พอต้องอ้อนขอเงิน ขอของขวัญ ขอไปเที่ยวกลางคืน หรือ อ้อนให้ทำนั้นทำนี่ ปรับโทนเสียงแทบไม่ทัน
ขอเงินพ่อแม่
ปกติเวลาคุยกับพ่อแม่ ก็น้ำเสียงปกติแหละ แต่พอต้องขอเงินเท่านั้น พ่อครับ / แม่ค่ะ ขอเงินหน่อย เสียงหวานยิ่งกว่าอะไร
เล่นกับสัตว์เลี้ยง
เวลาเล่นกับน้องหมา น้องแมว น้องกระต่าย น้องนก หรือ น้องอะไรที่บ้านที่เลี้ยง มักชอบทำเสียงสอง เสียงสาม เวลาเล่นด้วย ยิ่งน้องๆ มาอ้อนเรา เรายิ่งชอบคุยน่ารักๆ บ่อยๆ
คุยกับ Photo Sets
ก็ลงทุนสะสมมาตั้งนาน เสียเงินไปก็มาก กำลังใจอยู่ตรงหน้าขนาดนี้ บางทีก็มีมุมดูไป คุยกับรูป Photo Set ที่สะสม “งู้ยยยยยยยยยยยยย”
เวลาอยู่หน้ากล้อง
ลองสังเกตุเวลาเพื่อนๆ เรา หรือ ตัวเรา เวลาออกกล้อง Live Facebook Live IG อะไรก็ตามที่เป็นภาพเคลื่อนไหว ต้องมีบ้างแหละที่เสียงเปลี่ยนไป บางคนอาจจะไม่รู้ตัว หรือ บางคนรู้ตัว ก็แล้วยังไง อยากทำให้เราดูน่ารักขึ้น หรือ เสียงดูหล่อขึ้นอะ
ขอขนมเพื่อนกิน
โหขนมเพื่อนซื้อมาใหม่ น่าลองมาก ลองทำเสียงหวานขอเพื่อนกินขนมเลยละกัน อ่อนโยนแบบไม่เคยเป็นมาก่อน
คุยกับเพื่อนที่ไม่ชอบ
บางทีเราก็ต้องเก็บอาการพูดคุยกับเพื่อน หรือ คนที่ไม่ชอบบ้าง แต่เราก็ไม่อยากให้เขารู้ทันว่า “เราเก็บอาการไม่อยู่” เราจึงต้องเนียนคุยกับเขาไป เช่น “อะใช่จ้า” “จ้า” “55555” กลบเกลื่อน
