โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ท่องเที่ยวโลกระส่ำ จีนสกัดทัวร์เอาต์บาวด์ ควบคุมไวรัสอู่ฮั่น

ฐานเศรษฐกิจ

เผยแพร่ 25 ม.ค. 2563 เวลา 01.40 น.

 

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “2019-nCoV”ที่แพร่ระบาดจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน และคร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 26 คน พร้อมจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันแล้วมากกว่า 800 คนในหลายประเทศทั่วโลกขณะนี้ ทำให้เทศกาลวันหยุดตรุษจีนที่ได้ชื่อว่าเป็น “ช่วงเวลาแห่งการเดินทางที่ยิ่งใหญ่ที่สุดประจำปี” ของชาวจีนในปีนี้ ผิดแผกแตกต่างไปจากที่เคยเป็นมาอย่างสิ้นเชิง

 

โดยวานนี้ (24 ม.ค.) กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องที่ยวของจีนได้ออกคำสั่งให้บริษัทตัวแทนท่องเที่ยวทั้งหมดหยุดดำเนินกิจกรรมท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นทัวร์ในประเทศหรือต่างประเทศ ระงับการจำหน่ายตั๋วเครื่องบิน-โรงแรม เริ่มมีผลทันที นับเป็นการยกระดับมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่สามารถติดต่อจากคนสู่คน และเป็นที่หวั่นเกรงกันอย่างมากในช่วงก่อนหน้านี้ว่า จะแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วในช่วงเทศกาลวันหยุดตรุษจีนที่คลื่นมหาชนนับล้านออกเดินทางท่องเที่ยวหรือเดินทางกลับภูมิลำเนา

คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นพร้อมๆกับการเริ่มต้นของช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ก่อนหน้านี้มีตัวเลขประมาณการณ์ว่าจะมีชาวจีนออกเดินทางทั้งภายในประเทศและต่างประเทศจำนวนรวมกว่า 3,000 ล้านเที่ยวการเดินทาง ดังนั้น การตัดสินใจของรัฐบาลจีนครั้งนี้จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมภาคบริการของจีนในภาพรวม เชื่อมโยงไปถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศอื่นๆด้วย ทั้งนี้ สถิติในปี 2561 ชี้ว่านักท่องเที่ยวจีนใช้จ่ายเงินในการท่องเที่ยวต่างประเทศคิดเป็นมูลค่าถึง 130,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 3.9 ล้านล้านบาท พวกเขาเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มใหญ่ที่สุดในโลก และ 55% หรือกว่าครึ่งของนักท่องเที่ยวจีนที่ออกเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศยังนิยมใช้บริการของบริษัททัวร์ 

ไทยสูญรายได้ Q1ร่วม 5 หมื่นล. หลัง"สี จิ้นผิง" ห้ามทัวร์จีนเที่ยวทั่วโลก

"สี จิ้นผิง"ออกคำสั่งด่วนห้ามคนจีนเที่ยวทั่วโลกสกัด"ไวรัสอู่ฮั่น"

 

ก่อนหน้านี้ สิ่งที่เกิดขึ้นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้ก็คือ การสั่งควบคุมระบบบริการขนส่งสาธารณะทั้งทางบกและทางอากาศที่เข้า-ออกเมืองอู่ฮั่นที่เป็นศูนย์กลางการแพร่เชื้อ และอีก 7 เมืองในรัศมีรายรอบ ทั้งยังได้มีการประกาศยกเลิกการจัดงานกิจกรรมเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนในหลายพื้นที่รวมทั้งในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวง รวมทั้งเขตปกครองพิเศษฮ่องกงและมาเก๊า ซึ่งมีรายงานการพบผู้ป่วยติดเชื้อแล้วเช่นกัน

 

นอกจากผลกระทบที่จะมีต่อบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวของจีนเอง อย่างบริษัท ไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล ทราเวิล เซอร์วิส คอร์ป และบริษัท ยูทัวร์ กรุ๊ป แล้ว สายการบินภายในประเทศก็เป็นผู้รับผลกระทบแถวหน้าที่จะบาดเจ็บจากคำสั่งของกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจีนในครั้งนี้ สื่อใหญ่บลูมเบิร์กระบุว่า ตั้งแต่ต้นสัปดาห์มาข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้ ทำให้หุ้นของสายการบินจีน ไม่ว่าจะเป็นแอร์ไชน่า , ไชน่า เซาเธิร์น แอร์ไลน์ส หรือไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส ปรับร่วงลงไปตามๆกัน โดยเฉพาะสายการบินแอร์ ไชน่า ซึ่งมีเที่ยวบินระหว่างประเทศมากกว่าสายการบินอื่นๆ และสายการบิน ไชน่า เซาเธิร์น แอร์ไลน์ส ที่มีเที่ยวบินไปยังเมืองอู่ฮั่นมากที่สุด (ราคาหุ้นดิ่งลง 14%) ขณะที่ราคาหุ้นของบริษัท ทริปดอตคอม กรุ๊ป ตัวแทนท่องเที่ยวออนไลน์รายใหญ่ที่สุดของจีน ปรับลดลง 12% 

 

 

ธุรกิจเกี่ยวเนื่องกระทบ-หวั่นค้าปลีกหดตามทัวริสต์จีน

คาดว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากมาตรการล่าสุดในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ จะขยายวงกว้างครอบคลุมธุรกิจต่างๆที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว รวมทั้งธุรกิจค้าปลีก เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนนั้นได้ชื่อว่าเป็นนักช้อปและเป็นผู้ซื้อสินค้าหรูหรารายใหญ่ที่สุดในโลก

 

“ถ้าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลงไปในช่วงระยะสั้นถึงระยะกลาง เราคงต้องรอดูสถานการณ์ไปก่อนว่าจะมีผลกระทบมากน้อยแค่ไหน” เจซ ไทร์เรล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจ “นิว เวสต์ เอ็นด์” ซึ่งเป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการธุรกิจ 600 รายในย่านค้าปลีกยอดฮิตกลางกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ให้ความเห็น พร้อมให้ตัวเลขประมาณการณ์ว่า ในสถานการณ์ปกติ ลูกค้าที่เป็นนักท่องที่ยวชาวจีนน่าจะใช้จ่ายเงินประมาณ 17 ล้านปอนด์ หรือราวๆ 660 ล้านบาทในช่วงตรุษจีนปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 16 ล้านปอนด์ในปีก่อนหน้า ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวจีนส่วนใหญ่วางแผนการเดินทางล่วงหน้าสำหรับเทศกาลตรุษจีนและมาถึงอังกฤษก่อนที่ทางการจะมีประกาศคำสั่งห้ามเมื่อวันศุกร์ (24 ม.ค.) “นักท่องเที่ยวจีนเป็นลูกค้ากลุ่มสำคัญที่สุดในย่านเวสต์ เอ็นด์ พวกเขาใช้จ่ายเงินเฉลี่ย 1,800 ปอนด์ (หรือประมาณ 73,000 บาท) ต่อการช้อปปิ้งแต่ละครั้ง”  ไทร์เรลกล่าวว่า นักท่องเที่ยวจีนก้าวขึ้นมาเป็นนักช้อปอันดับ 1 ในย่านนี้แทนนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางที่เคยเป็นแชมป์ เมื่อพิจารณาในแง่มูลค่าการจับจ่ายใช้สอย  สอดคล้องกับข้อมูลจากบริษัท โกลบอล บลู เอสเอ ผู้ให้บริการค้าปลีกปลอดภาษีในประเทศอังกฤษที่ระบุว่า ในปี 2562 ยอดขายมากกว่า 1 ใน 4 ของยอดขายปลีกทั้งหมดมาจากนักท่องเที่ยวจีน

 

นักวิเคราะห์ประเมินว่า สถานการณ์อาจจะยิ่งเลวร้ายลงได้มากกว่านี้สำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง เพราะถ้าหากจะใช้ประสบการณ์ในอดีตเมื่อครั้งเชื้อไวรัสโรคซาร์สแพร่ระบาดในปี 2546 มาเป็นแนวทาง (เนื่องจากเป็นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาและอาการของโรคมีความใกล้เคียงกันมาก) ผลกระทบที่มียังเลวร้ายได้อีก เพราะภายในเดือนพ.ค. 2546 หลังการแพร่ระบาดในวงกว้างของโรคซาร์ส การเดินทางของชาวจีนด้วยเครื่องบินตกดิ่งลงถึง 71% (ข้อมูลจากโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป)

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0