โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ทุกวิกฤต มีโอกาส 'ไทด์-วสุวัส' โอปป้าคนเล็ก แห่งบ้าน คูหาเปรมกิจ

MATICHON ONLINE

อัพเดต 04 เม.ย. 2563 เวลา 00.00 น. • เผยแพร่ 04 เม.ย. 2563 เวลา 00.00 น.
คูหาเปรมกิจ
คูหาเปรมกิจ

ทุกวิกฤต มีโอกาส ‘ไทด์-วสุวัส’ โอปป้าคนเล็ก แห่งบ้าน คูหาเปรมกิจ

คูหาเปรมกิจ – เป็นอีกหนึ่งหนุ่มหล่อมากความสามารถที่มีวิธีรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่น่าสนใจ ทั้งในมุมของการบริหารธุรกิจ และมุมการใช้ชีวิตส่วนตัว

สำหรับ ไทด์-วสุวัส คูหาเปรมกิจ ลูกชายคนเล็กของครอบครัว “คูหาเปรมกิจ” เจ้าของธุรกิจค้าทองคำ ที่หลายคนอาจจะคุ้นตา เพราะหนุ่มไทด์เป็นน้องชายแท้ๆ ของไฮโซ ฮิม อิสริยะ และไฮโซ เซนต์ ธราภุช เจ้าบ่าวของนางเอกสาว มิว นิษฐา

ซึ่งล่าสุดหลังจากทำงานนอกบ้านมาหลายปี เจ้าตัวก็ได้ฤกษ์มาสานต่อธุรกิจครอบครัวอย่างเต็มตัว เรียกว่าช่วยดูทุกฝ่ายของธุรกิจค้าทอง ซึ่งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ก็ทำเซเลบหนุ่มปวดหัวไม่น้อย

“ได้รับผลกระทบพอสมควรในด้านการขาย เพราะลูกค้ามีทั่วประเทศ การเดินทางขนส่งลำบากขึ้นเพราะมีกาลดเที่ยวบิน ผู้ประกอบการร้านทองเองก็กลัวติดเชื้อเหมือนกัน จึงเลี่ยงการเดินทาง ในส่วนของผู้บริโภคก็ไม่ได้ซื้อทองเนื่องจากราคาทองค่อนข้างสูง และคนไม่ค่อยออกมาจากจับจ่าย ยอดขายจึงลดลงพอสมควร” วสุวัสเผยและเล่าถึงการปรับตัวรับมือกับสถานการณ์ว่า

รุกทำธุรกิจทางออนไลน์มากขึ้น ซึ่งจริงๆ เป็นวิธีที่ทำมาสักระยะแล้ว ช่วยได้จริงในสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะทำให้มีการพูดคุยกับลูกค้ามากขึ้น ลูกค้าไม่ต้องเดินทางมาหาตลอด เพราะมีบริการจัดส่ง หรือสามารถนัดมารับได้ ลูกค้าก็จะแค่มารับของแล้วไป ใช้เวลาติดต่อกันไม่นาน เป็นการป้องกันได้อีกทางหนึ่ง

“ผมเชื่อว่าในทุกวิกฤต ก็มีโอกาสรออยู่ในนั้น ต้องหาโอกาส เพราะการทำธุรกิจต้องดิ้นรน ไม่งั้นไม่รอดแน่ ยิ่งในสภาพการณ์แบบนี้ผมมองว่าเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของลูกค้าด้วย อะไรที่เราทำได้เราก็ช่วย” ไทด์กล่าว และว่า

เนื่องจากยอดขายลดลง พนักงานจึงมีเวลาว่างเพิ่มขึ้น วสุวัสจึงออกไอเดียให้พนักงานใช้เวลานี้ผลิตหน้ากากอนามัยเพื่อใช้เอง และผลิตหน้ากากแบบคลุมหน้า เพื่อมอบให้แก่โรงพยาบาลด้วย

“ตอนนี้ทุกคนได้รับผลกระทบจากโควิดกันหมด เราต้องช่วยกัน อย่างเมื่อก่อนผมชอบท่องเที่ยว ตอนนี้ต้องยกเลิกไปก่อน รวมไปถึงแยกตัวมาอยู่ที่คอนโด เพื่อช่วยหยุดเชื้อ หากิจกรรมทำทั้งดูหนังฟังเพลง ซึ่งผมมองว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราได้อยู่กับตัวเองด้วย นอกจากนี้การดูแลตัวเองให้เสี่ยงน้อยที่สุดยังเป็นการช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ เพราะหากเราติดเชื้อก็เท่ากับว่าไปแย่งพื้นที่ของผู้ป่วยที่ป่วยอยู่แล้ว เพิ่มภาระให้กับแพทย์ ฉะนั้นจึงต้องดูแลและรับผิดชอบตัวเองให้ดี เพียงเท่านี้ก็ช่วยสังคมได้เยอะแล้ว” เซเลบหนุ่มกล่าวย้ำ

ด้านการทำงาน หนุ่มไทด์บอกว่า ส่วนใหญ่จะเวิร์ก ฟรอม โฮม แต่ไม่ทั้งหมด เพราะที่ทำงานอยู่กันแบบครอบครัว ไม่เหมือนทำงานออฟฟิศ แต่ก็มีมาตรการป้องกันที่เข้มมาก เพราะรู้สึกว่าโควิดเป็นเรื่องใกล้ตัว เช่น ทุกชั่วโมงแม่บ้านจะเช็ดคอนโซลทั้งหลายด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและแอลกอฮอล์ เช่น ราวจับประตู คันประตู กระจกหน้าตู้ทอง เก้าอี้ โต๊ะต่างๆ ทุกคนที่จะเข้ามาที่ร้านต้องวัดไข้ก่อน และต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ที่ร้าน

สำหรับพนักงานก็จะมีเพิ่มมาคือวัดไข้ 2 ครั้งต่อวัน ล้างมือบ่อยๆ วางเจลล้างมือทุกจุดในร้าน และเปิดเครื่องฟอกอากาศ นอกจากนี้ยังย้ำพนักงานตลอดว่าอย่าลืมเว้นระยะห่างระหว่างสังคม (Social Distancing)

“ที่ต้องมีมาตรการเข้มเพราะหากมีคนติดเชื้อ 1 คน คนรอบข้างก็มีความเสี่ยงหมดเพราะเชื้อแพร่ได้ง่าย” วสุวัสกล่าวทิ้งท้าย

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0