โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ที่ปรึกษากฏหมายผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการฟอกเงิน โกงจำนำข้าว!!

ฐานเศรษฐกิจ

เผยแพร่ 19 เม.ย. 2562 เวลา 11.28 น.

คอลัมน์มารยาตลาดหุ้น ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3463 หน้า 17 ระหว่างวันที่ 21-24 เม.ย. 2562 โดย…คุณนายเผือก

 

 

ที่ปรึกษากฏหมาย

ผู้อยู่เบื้องหลัง

ขบวน “การฟอกเงิน”

โกงจำนำข้าว!!

 

          ฮือฮาทั้งวงการ เมื่อ ก.ล.ต. ได้ทำการกล่าวโทษอดีตกรรมการ “บมจ. อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น” หรือ “ADAM” กับพวกรวม 8 ราย ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรณีกระทำทุจริตต่อหน้าที่ในการให้ “ADAM” เข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของ “บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด” (ชื่อเดิม บริษัท สิราลัย จำกัด) ทั้งที่รู้ว่าบริษัทนี้เกี่ยวกับเรื่อง “ทุจริตโครงการรับจำนำข้าว” และการระบายข้าว “จีทูเจ๊ง”

          โดยพวกรวม 8 ราย ประกอบด้วย

          (1) อภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ “เสี่ยเปี๋ยง”… นักธุรกิจขายคข้าวชื่อดังผู้ก่อตั้ง “บริษัท สยามอินดิก้า” ปัจจุบันต้องโทษอยู่ในเรือนจำคดีทุจริตข้าวจีทูจี

          (2) ชินวัฒน์ ชินแสงอร่าม นักกฎหมายและหุ้นส่วนจาก “บริษัท วีระวงค์,ชินวัฒน์ และพาร์ทเนอร์ส จำกัด”

          (3) สราวุฒิ ภูมิถาวร

          (4) ณิทธิมน หัสดินทร ณ อยุธยา

          (5) บุญเปี่ยม เอี่ยมรุ่งโรจน์ เครือข่ายคนสนิท “เสี่ยเปี๋ยง”

          (6) บงกร จันทร์สกุลพร ลูกสาว “เสี่ยเปี๋ยง” (ชื่อขณะเกิดเหตุ นางสาวธันยพร) โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการหลบหนีคดีทุจริตข้าวจีทูจี

          (7) สรวิศ จันทร์สกุลพร

          (8) สุดา คุณจักร อดีตกรรมการของกลุ่มบริษัท สยามอินดิก้า หรือ เพรซิเดนท์ อะกริเทรดดิ้ง

          โดยทั้งหมดร่วมกันกระทำผิดในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำเพื่อให้ “ADAM” เข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของ “บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ฯ” ในปี 2557

          แปลง่ายๆ ภาษาชาวบ้าน แบบไม่ต้องกลัวหน้าอินทร์หน้าพรหม… ว่านี่คือขบวนการเพื่อวัตถุประสงค์ “ฟอกเงิน” ที่ได้มาจาก “การทุจริตโครงการรับจำนำข้าว” และการระบายข้าว “จีทูเจ๊ง” ซึ่งรัฐเสียหายกว่า 5.3 แสนล้านบาท และปัจจุบันรัฐยังต้องผ่อนชำระหนี้ให้ ธ.ก.ส. อีกกว่าปีละ 5 หมื่นล้านบาท ไปอีก 15 ปี (รวมดอก)

          โดยหวังที่จะ “ฟอกเงิน” โดยการซื้ออสังหาริมทรัพย์ (บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์) และโอนกรรมสิทธิ์ให้บุคคลใกล้ชิด (ลูกสาว) ก่อนที่จะแปรรูปสู่การ “Backdoor Listing” หรือ เข้าตลาดทางอ้อม

          สลับซับซ้อนไหม๊ล่ะเจ้าคะ… การฟอก 2-3 ชั้นของพวกคนโกงสมบัติชาติบ้านเมือง

          ส่วนพวกที่สนับสนุน พวกช่วยคิด พวกช่วยวางแผนกลอุบายนี้ก็หาใช่ใครที่ไหน ก็ “สำนักงานกฎหมาย วีระวงค์,ชินวัฒน์ และพาร์ทเนอร์ส จำกัด”

          โดยหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา ก็คือหุ้นส่วน “สำนักงานกฎหมาย” ที่ชื่อ“ชินวัฒน์ ชินแสงอร่าม” นี้ ซึ่งคนในวงการเรียกว่า “พี่ชิน” หรือ “เป๋ชิน” เพราะการที่แกชอบเดินขาเป๋ๆ

          ส่วนอีกหนึ่งในขบวนการ คือ “ณิทธิมน หัสดินทร ณ อยุธยา” เพื่อนสนิท รร. สวนกุหลาบของ “วีระวงศ์ จิตต์มิตรภาพ” หุ้นส่วนอีกรายของสำนักงานกฎหมายที่ปรึกษานี้

          โดยแหล่งข่าวระบุว่า “ณิทธิมน หัสดินทร ณ อยุธยา” คือคนสนิท “พี่หมิ่น” และคือคนที่ถูกใช้เสมือนนอมินี หรือเบี้ยบนกระดานในการทำรายการสุ่มเสี่ยงต่างๆ โดยได้รับค่าจ้างครั้งละ 3 หมื่นบาทในการประชุม

          ในอดีตวีรกรรมอุกอาจที่ “ณิทธิมน หัสดินทร ณ อยุธยา” เคยกระทำคือการปิดห้องประชุม ไม่ให้ผู้ถือหุ้นเข้า กรณีของ “กลุ่มเนชั่นกรุ๊ป” และยังเคยร่วมอนุมัติงบการเงินที่ถูกตกแต่งบัญชี จนเกิดความเสียหายหลายร้อยล้าน ก่อนถูก ก.ล.ต. ชี้ว่าเป็นบุคคลที่ไม่น่าไว้วางใจ

          “หมอคน”  หากแนะนำคนไข้ผิด อย่างเลว คนไข้ก็ตาย แต่ “หมอความ” หากแนะนำคนไข้ผิด คนไข้อาจตายทั้งเป็นและสูญสิ้นซึ่งเกียรติและเสรีภาพไปตลอดชีวิต!!

          ในกรณีนี้… “หมอความ” หรือ หุ้นส่วน “สำนักงานกฎหมาย” ที่ชื่อ “ชินวัฒน์ ชินแสงอร่าม” ลงมาเล่นเอง เสี่ยงเอง สั่งเอง ไม่มีสตันต์ ผลลัพธ์ก็อย่างว่า เจ็บเอง

          ส่วนหุ้นส่วนอีกราย “วีระวงศ์ จิตมิตรภาพ” หรือ “หมิ่น” ก็ยังลอยนวล… สบายๆ ชิลๆ และยังให้คำปรึกษาและเป็นกรรมการให้เหล่านายทุน เช่น “บมจ. ซีพี ออลล์” หรือ กลุ่ม “CP 7-11”… “กลุ่มหมอเสริฐ” โรงพยาบาลกรุงเทพ หรือ “บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ” (BDMS)

          ล่าสุด ก็เพิ่งแนะนำผิดๆ และเพิ่งแพ้คดีไป กรณีที่ “ร.พ.กรุงเทพ” บอกเลิกสัญญาโครงการไลฟ์พริวิเลจคลับ (Life Privilege Club)

          ลูกค้าอีกรายที่“วีระวงศ์ จิตต์มิตรภาพ” หรือ “หมิ่น” ดูแลอย่างใกล้ชิดคือ“กลุ่มเบียร์ช้าง” โดยกรณีนี้แหล่งข่าวระบุว่าคนทำงานและลูกๆ อยากเปลี่ยนที่ปรึกษากฎหมายแต่“เสี่ยเจริญ” ไม่ยอม…

          แต่ก็ว่า… ใครจะไปเปลี่ยนขุนพลล่ะเจ้าคะ หากเขาสามารถทำเรื่องเทาเป็นเรื่องขาว หรือ ประเงินที่จะจ่ายภาษีลงได้

          ส่วนที่ดิฉันยังสงสัยคือ เหตุใด คนประวัติแบบนี้ วีรกรรมแบบนี้ ทัศนคติแบบนี้ “ธนาคารไทยพาณิชย์” หรือ “SCB” ยังคงสถานะไว้เป็นกรรมการอิสระของธนาคาร??!!?

          อย่าลืมคำกล่าวสุภาษิตไทยโบราณนะเจ้าคะที่ว่า “คบคนจรนอนหมอนหมิ่น”

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0