นับเป็นช่วงที่หุ้นไอพีโอกำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก มีหุ้นไอพีโอหลายบริษัทที่ตบเท้าต่อแถวเข้าเทรด ซึ่งวันนี้ก็เป็นคิวของ PROEN หรือ โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน) ที่ทำธุรกิจเทคโนโลยีและการสื่อสาร และให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศด้านศูนย์ข้อมูล Data Center, บริการอินเทอร์เน็ต ISP, บริการคลาวด์ และธุรกิจรับเหมาก่อสร้างสำหรับงานโทรคมนาคมและสาธารณูปโภคพื้นฐาน โดยเปิดการซื้อขายวันแรกที่ราคา 9.75 บาท เพิ่มขึ้น 6.50 บาท หรือ +200.00% จากราคาไอพีโอที่ 3.25 บาท
โดยนายกิตติพันธ์ ศรีบัวเอี่ยม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PROEN กล่าวว่า รู้สึกดีใจและขอขอบคุณนักลงทุนทุกคนที่ไว้วางใจ บริษัทจะพยายามพัฒนาธุรกิจและสร้างสิ่งใหม่ๆ เพื่อสร้างผลกำไรและผลตอบแทนให้คุ้มค่าที่สุด ส่วนเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ ประมาณ 50% จะนำไปก่อสร้างอาคารสำนักงานและอาคารศูนย์ข้อมูล (IDC) แห่งใหม่ ซึ่งสามารถรองรับตู้ Server ได้จำนวน 1,000 ตู้ คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในปี 2565 และนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ ICT และรับเหมาก่อสร้าง ส่วนที่เหลือบริษัทจะชำระหนี้สถาบันการเงิน ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทมีภาระดอกเบี้ยส่วนนี้ค่อนข้างมาก รวมถึงอาจต่อรองกับกลุ่มธนาคารเพื่อให้ได้เงื่อนไขที่ดีที่สุด จึงคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ในปี 2564 จะปรับลงมาอยู่ที่ 2 เท่าจากสิ้นปีก่อนที่ 3.4 เท่า
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในปี 2564 คาดว่าจะเติบโตดีกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 1,005.5ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 25.3ล้านบาท จากงานที่รอรับรู้รายได้จำนวน 334 ล้านบาท รวมถึงรายได้ของธุรกิจ Data Center ที่จะเติบโตตามฐานลูกค้าที่ขยายตัว โดยลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทอยู่ในอุตสาหกรรมเทคโลยีที่มีการเติบโตสูงจากการระบาดของ Covid-19 ทำให้ความต้องการใช้บริการ Data Centerเพิ่มขึ้นอย่างมาก เช่น ช้อปปิ้งออนไลน์ เกมออนไลน์ และ E-Paymentเป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทประเมินว่าอัตรากำไรขั้นต้นปี 2564 จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ที่ 15.9% จากการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ จำนวนงานและฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น โดยกำไรในปี 2563 ที่ปรับลดลงเป็นผลมาจากงบประมาณเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ และดอกเบี้ยจากสถาบันการเงินที่สูง ซึ่งหลังจากนี้ภาระดังกล่าวจะปรับลดลง ทำให้ความสามารถในการรับรู้กำไรของบริษัทน่าจะดีขึ้น
“ขอขอบคุณผู้ถือหุ้น และนักลงทุนที่ให้การต้อนรับ PROEN อย่างอบอุ่น ทีมงานและผู้บริหารพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผนที่วางไว้ เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตในอนาคต โดยใน 3-5 ปีจากนี้ไป บริษัทจะเร่งขยายพื้นที่ให้บริการ DATA Center เพิ่มขึ้นประมาณ 3,000 ตารางเมตร ขณะเดียวกันจะเร่งขยายไปในธุรกิจ New S-Curve ทั้ง Cloud Service เทคโนโลยีการเชื่อมต่อ Internet ระดับองค์กร SD-WAN และระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งตรงนี้ผมมองว่าเป็นเทรนด์ของธุรกิจในอนาคต ที่ผู้ประกอบการในทุกอุตสาหกรรมเริ่มมองเห็นและให้ความสำคัญ และได้หันมาใช้บริการมากขึ้น ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ได้มีเฉพาะภายในประเทศเท่านั้นแต่ยังรวมถึงลูกค้าในอาเซียนที่ PROEN ตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะทำให้เป็นกลุ่มลูกค้าในอนาคตอันใกล้นี้" นายกิตติพันธ์ กล่าว
