ทีมไกรทองผงะ! ‘ไอ้เคี่ยม’บางนราใหญ่กว่าที่คิด ต้อนเข้าแม่น้ำคืนนี้ลุยล่า
จากกรณีชาวบ้านพบเห็น จระเข้โผล่ว่ายน้ำอยู่บริเวณชายหาดนราทัศน์ อ.เมือง จ.นราธิวาส เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา ก่อนดำน้ำหายไปแล้วไปโผล่อีกครั้งบริเวณประตูระบายน้ำบางนราตอนบน ห่างจากชายหาดนราทัศน์ ประมาณ 4 ก.ม.
โดยนายนิคม สุขสวัสดิ์ เจ้าหน้าที่ชุดไกรทองลุ่มน้ำตาปี จากศูนย์ป้องกันประมงน้ำจืดภาคใต้ จ.สุราษฏร์ธานี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง วางแผนจับจระเข้ตัวนี้ตลอดทั้งคืนแต่ยังไม่เป็นผล จระเข้ได้แอบซ่อนอยู่ใต้น้ำ พร้อมทั้งแอบไปโผล่ตามริมฝั่งแม่น้ำบางนรา
ความคืบหน้าเรื่องนี้ วันที่ 21 ก.พ. นายนิคม พร้อมด้วย นายนิพนธ์ เสนอินทร์ ประมง จ.นราธิวาส นายประพัฒน์พงศ์ ทักษิณสัมพันธ์ หน.กลุ่มบริหารจัดการด้านประมง สำนักงานประมง จ.นราธิวาส และ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุมวางแผนการจับจระเข้ โดยขอสนับสนุนเรือท้องแบนและเรือยางติดเครื่องยนต์จาก ปภ.จ.นราธิวาส รวมทั้งเทศบาล ต.กะลุวอเหนือ รวม 4 ลำ
จากนั้นทีมไกรทองลุ่มน้ำตาปี พร้อมเจ้าหน้าที่ รวม 20 คน ลงเรือท้องแบนพร้อมนำอวนที่ได้ขอสนับสนุนเพิ่มเติมจากชาวประมง บ้านบาเฆะ แล่นไปตามแม่น้ำบางนราเป็นรูปวงกลมในรัศมีกว้าง 30 เมตร ซึ่งคาดว่าจะเป็นจุดที่จระเข้อาศัยอยู่ จากนั้นหย่อนอวนโอบล้อมจระเข้ ก่อนเรือทั้ง 4 ลำจะค่อยๆบังคับบีบพื้นที่ให้แคบลง เพื่อต้อนจระเข้เข้าหาฝั่งแต่ทำอยู่หลายรอบก็ยังไม่สามารถจับจระเข้ได้
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เจ้าหน้าที่จึงเปลี่ยนแผน ด้วยการกดดันจระเข้ให้ว่ายน้ำเข้าไปในคลองสาขาของแม่น้ำยะกัง ที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำบางนราแล้วใช้อวนปิดรอยต่อของแม่น้ำ เพื่อไม่ให้จระเข้ว่ายน้ำกลับมาที่เดิม โดยกำหนดแผนเริ่มจับจระเข้ใหม่อีกครั้งช่วงเย็น เนื่องจากช่วงพลับค่ำหรือตลอดทั้งคืนเชื่อว่าจะจับจระเข้ได้ง่ายกว่า เพราะเวลาค่ำมืดทัศนะวิสัยการมองเห็นของจระเข้จะลดน้อยกว่าในช่วงกลางวัน
นายนิคม เปิดเผยว่า ลักษณะจระเข้ตัวนี้เท่าที่เห็น มีลักษณะผิวหนังสีเหลือง สันนิฐานเบื้องต้น น่าจะเป็นจระเข้น้ำเค็มและมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ความยาวหัวจรดหางกว่า 3 เมตร เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นที่จะต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการจับไล่ล่าในครั้งนี้
