โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ทำไม่ได้.? "เชาว์" เตือนสติศรีธนญชัยลอดล่องดิ้นนำ ม. 143 เซฟงบ 63 เบรกอย่าดันทุรังตีความตามอำเภอใจ

สยามรัฐ

อัพเดต 27 ม.ค. 2563 เวลา 09.11 น. • เผยแพร่ 27 ม.ค. 2563 เวลา 09.11 น. • สยามรัฐออนไลน์
ทำไม่ได้.?

ทำไม่ได้.?"เชาว์" เตือนสติศรีธนญชัยลอดล่อง ดิ้นใช้ม. 143 เซฟงบ 63 เบรกอย่าดันทุรังตีความตามอำเภอใจ ชี้ส่อวิบัติขัดแย้งเพิ่ม ติงอย่าลากศาลรธน.มาเป็นเกราะกำบังรัฐบาล ทำลายหลักการถ่วงดุลย์อำนาจ หวั่นซ้ำรอยยุคทักษิณทำเพื่อพวกพ้อง

เมื่อวันที่ 27 ม.ค.นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ Facebook Chao Meekhuad เรื่อง
"ชำแหละม.143” เมื่อนักกฎหมายกลายเป็นศรีธนชัย “ลอดล่อง”มีเนื้อหาว่า เห็นข่าวนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้ความเห็นด้านกฎหมายเกี่ยวกับทางออก หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 เป็นโมฆะ ไว้ว่า " ในมาตรา 143 ของรัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดว่า หากพิจารณาไม่แล้วเสร็จใน 105 วัน ให้ถือว่าสภาฯเห็นชอบ…พูดก็พูดนะ กฎหมายงบประมาณถ้าไม่ล็อกเรื่อง 105 วัน มันมีช่องทางคิดได้เหมือนกันว่าเอกาลับไปโหวตใหม่ แต่เมื่อมีกำหนดเวลาเอาไว้ ก็เป็นช่องที่ขอให้ศาลวินิจฉัยหน่อยว่าจะเอามาใช้ประโยชน์ได้หรือไม่ หากใช้ประโยชน์ได้มันจะกลับไปสู่ร่าง พรบ.งบประมาณฯที่เสนอในวาระ 1 ทุกอย่างที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พรบ.งบประมาณฯ ตัด ๆ ไป จะกลับไปสู่ร่างแรก เพราะเจตนามาตรานี้ต้องการให้เป็นไปอย่างนั้นอยู่แล้ว แต่ไม่ได้คิดว่าจะเกิดกระบวนการทำผิด หรือคณะกรรมาธิการทำล่าช้า"

ถ้าเป็นไปตามที่ นายวิษณุที่สังคมให้สมญานามว่า"ศรีธนญชัย" พยายายามหาช่องให้กลับไปใช้ร่างเดิม ส่งต่อให้ "สภาทหารเกณฑ์" โหวตเห็นชอบได้ภายใน 1 วัน ย่นระยะเวลาให้เร็วขึ้น

นายเชาว์กล่าวว่า ในฐานะนักกฎหมาย ผมคิดว่า "ช่องนี้ลอดไม่ได้ และไม่ควรลอด” เพราะข้อเท็จจริงชัดเจนว่ากระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรนับตั้งแต่รับร่างกฎหมายงบประมาณมาจนนำไปสู่การลงมติในวาระสาม เป็นไปตามกรอบเวลา 105 วันที่รัฐธรรมนูญกำหนด ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นกรณีการลงคะแนนที่ไม่สุจริต เพราะมีการกดบัตรแทนกัน จึงไม่มีเหตุผลใดที่จะรับฟังว่า เมื่อลงคะแนนไม่สุจริต เท่ากับสภาพิจารณาไม่แล้วเสร็จภายใน 105 วัน อย่างที่นายวิษณุพยายามตะแบง

การพยายามใช้มาตรา 143 มาเพิ่มทางรอดให้รัฐบาล เท่ากับกำลังตีความกฎหมายตามอำเภอใจเพื่อประโยชน์ของตัวเอง ถือเป็นความวิบัติในการใช้ดุลพินิจทางกฎหมายที่จะทำให้เกิดปัญหาอื่นตามมา อย่าลากศาลรัฐธรรมนูญมาเป็นเกราะกำบังให้รัฐบาลเลยครับ ให้แต่ละฝ่ายทำหน้าที่ถ่วงดุลย์อำนาจกันและกันตามหลักประชาธิปไตย เพื่อให้อำนาจตุลาการเป็นเสาหลักค้ำยันประชาธิปไตยได้อย่างมั่นคงต่อไป

ยิ่งไปกว่านั้นคำร้องของวิปรัฐบาลที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญแนะนำว่า ถ้าร่างงบประมาณปี 63 ตกไปทั้งฉบับหรือบางมาตราจะต้องดำเนินการอย่างไรนั้น ถือว่าไม่สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 210 (1) ที่ให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกฎหมายหรือร่างกฎหมาย เนื่องจากเป็นการขอคำแนะนำซึ่งศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้เป็นที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาล คำขอดังกล่าวจึงถือว่าไม่อยู่ในขอบเขตอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะวินิจฉัยหรือตอบในเรื่องนี้

“ผมขออนุญาตยืมคำพูดของคุณนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่บอกว่ากฎหมายต้องรับใช้ความยุติธรรม ไม่ใช่นำกฎหมายไปรับใช้ความอยุติธรรม เมื่อไหร่ก็ตามที่เราปล่อยให้มีการบิดเบือนกฎหมายเพื่อประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง เมื่อนั้นสังคมจะหาความสงบไม่ได้ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในยุคที่นายทักษิณเรืองอำนาจ

จึงฝากถึงนายวิษณุว่าสมควรทบทวนบทบาทของตนเอง ที่สังคมให้สมญานามว่าศรีธนนชัยก็หนักอยู่แล้ว ถ้าฝืนเดินต่อไปลอดล่องตกบันไดขาหักขึ้นมา ก็ไม่รู้จะตั้งฉายาว่าอย่างไรครับ”นายเชาว์กล่าวทิ้งท้าย

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0