ในอดีตเคยมีนักกีฬามาราธอนเสียชีวิตในสภาพพิงเนินอยู่ข้างทาง ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องระบบภายในได้วิเคราะห์ว่านักกีฬาคนดังกล่าวได้เสียชีวิตจากหัวใจวายในขณะที่พักร่างกายอยู่ ซึ่งหากเสียชีวิตในขณะที่กำลังวิ่งอยู่นั้นสภาพของศพจะต้องนอนคว่ำหน้าลงกับพื้น
จากเหตุการณ์ดังกล่าวแพทย์และนักวิจัยหลายๆ ท่านได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก จนเกิดการศึกษาและได้คำตอบว่า ในขณะที่ออกกำลังกายอย่างหนัก หัวใจจะทำงานเพิ่มขึ้น เพื่อส่งเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อที่ถูกใช้งานและในขณะเดียวกันกล้ามเนื้อที่ได้รับเลือดมามากก็จะหดตัวและบีบเอาเลือดที่ใช้กลับไปยังหัวใจมากขึ้น นั้นคือเหตุผลที่ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น เพราะเป็นการรักษาวงจรการไหลเวียนของเลือดภายในร่างกายให้เป็นปกติ และถ้าหากเราหยุดวิ่งกระทันหันในขณะที่หัวใจทำงานหนัก ไม่ว่าจะอยู่ในท่านั่งหรืออยู่ในท่ายืน ผลที่ตามมาก็คือจะทำให้กล้ามเนื้อที่หยุดทำงานไม่สามารถหดตัวบีบเลือดกลับเข้าสู่หัวใจได้ ทำให้มีเลือดคั่งค้างอยู่ที่กล้ามเนื้อเป็นจำนวนมาก และหัวใจที่ยังเต้นเร็วและแรงอยู่ก็จะขาดเลือด ส่งผลให้เกิดอาการหัวใจวายและเสียชีวิตได้
ซึ่งวิธีที่ถูกต้องหลังจากการวิ่งมาราธอนก็คือเคลื่อนไหวร่างกายของเราต่อไปอีกระยะหนึ่งเพื่อให้ชีพจรเต้นให้ช้าลงจนถึงประมาณ 120 ครั้งต่อนาที แต่ถ้ามีอาการหน้ามืดคล้ายจะเป็นลมหลังจากการวิ่งไม่ควรที่จะนั่ง ซึ่งทางที่ดีควรที่จะนอนราบที่พื้นและยกเท้าสูงขึ้นเล็กน้อย เพื่อกระตุ้นให้เลือดได้ไหลกลับคืนไปสู่หัวใจและสมองได้ดี