โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ทำใจ!ชาวนาขอนแก่นมองต้นข้าวยืนต้นตาย

INN News

อัพเดต 23 ก.ค. 2562 เวลา 12.47 น. • เผยแพร่ 23 ก.ค. 2562 เวลา 12.47 น.
ชาวนาน้ำตาตกใน

นายไพรวัลย์ นิเทียนสี อายุ 53 ปี ชาวบ้านหนองโพธิ์ ม.4 ต.ท่ากระเสริม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ตั้งแต่เล็กจนโตมาถึงปัจจุบันครอบครัวทำนามาทั้งชีวิต แต่ปีนี้ไม่มีฝนตกลงมา แล้งที่สุดกว่าทุกปี เพราะฝนทิ้งช่วงนานจนเกิดความแห้งแล้งสร้างวิกฤตินาไม่มีน้ำ ข้าวที่หว่านไว้แห้งตายเป็นหย่อมๆ และค่อยๆขยายความเสียหายออกไปเรื่อยๆ แม้ว่าตัวเองจะมีที่นาอยู่ติดคลองซอยของชลประทาน แต่ไม่เคยมีน้ำไหลมาถึง เพราะการระบายน้ำทุกครั้งนั้น คนที่อยู่ต้นน้ำก็จะได้น้ำก่อน ใครที่อยู่ปลายทางหรืออยู่ตามคลองซอยนั้น ต้องหาเครื่องสูบน้ำและท่อไปสูบน้ำใส่ในคลองซอย เพื่อให้น้ำไหลเข้าที่นาตัวเอง “ปีนี้ทราบว่าชลประทานที่ 6 จะระบายน้ำมาให้ชาวนาในวันที่ 24 ก.ค.นี้ ก็เตรียมตัวว่าจะไปตั้งเครื่องสูบน้ำ รอสูบเอาน้ำจากคลองชลประทาน ส่งมาตามคลองซอยมาใส่ในนาข้าวตัวเอง แต่ถ้าน้ำหมด ก็ต้องปล่อยให้ข้าวตาย เพราะนาข้าวต้องการน้ำ ไม่มีน้ำก็ไม่รู้จะดูแลอย่างไร และเชื่อว่าน้ำที่ปล่อยมาคงไม่เพียงพอต่อความต้องการ ได้เท่าไหร่ก็คงเอาเท่านั้น เพราะถ้าจะสูบน้ำจากลำน้ำพองก็อยู่ไกลออกไปกว่า 2 กิโลเมตร จึงทำใจปล่อยให้ข้าวตายหากไม่มีน้ำเข้ามา แล้วก็รอรับการเยียวยาจากรัฐบาล”

 

ขณะที่ นายกิจ วงคุย อายุ 66 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้านเดียวกัน บอกว่า ครอบครัวได้ตัดสินใจซื้อเครื่องสูบน้ำมาทำการสูบน้ำจากลำน้ำพองเพื่อมาใส่ในที่นาของตนเอง ที่ลงมือหว่านข้าวไปเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา แต่ก็มาเจอฝนทิ้งช่วงนาน อีกทั้งน้ำในลำน้ำพองก็แห้งเหือดลงมาก เพราะเขื่อนไม่สามารถปล่อยน้ำลงมาได้มากกว่าที่ระบายอยู่ จนต้องซื้อท่อพีวีซียาวกว่า 30 เมตร สูบน้ำจากลำน้ำพองมาใส่ที่นา แต่ใส่ได้เพียง 2 ไร่เท่านั้น ส่วนที่เหลืออีก 10 ไร่ คงต้องปล่อยให้ข้าวตาย เพราะสู้ค่าน้ำมันที่ต้องซื้อมาเติมใส่เครื่องสูบน้ำวันละ 1,000 บาทไม่ไหว

 

 

 

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0