คุม 5 หนุ่มทำแผนฆ่าเพื่อนรัก ปมบาดหมางหลังเป็นสายให้ตำรวจมาจับแม่ 1 ในผู้ต้องหา เผยเดินข้ามศพไปมา 5 รอบ เพื่อไม่ให้รู้ว่าใครฆ่าตามความเชื่อ…
ความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญเพื่อนฆ่าเพื่อนรักที่อยู่ในกลุ่มมั่วสุมยาเสพติดกลุ่มเดียวกัน โดยผู้ตายคือ นายวรัญชิต หนูสันทัด อายุ 23 ปี หรือฟิล์ม ซึ่งหายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา และพบกลายเป็นศพถูกยัดใส่กระสอบและถุงดำนำไปทิ้งไว้ในร่องดินชายป่าริมถนนสายเอเชียพื้นที่บ้านทุ่งโคกทัง หมู่2 ต.พิจิตร เมื่อคืนวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ต่อมา เจ้าหน้าที่สืบสวน สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ยกแก๊ง 5 คน ซึ่งเป็นเพื่อนรักของผู้ตายที่ชอบไปมั่วสุมเสพยาด้วยกันที่ขนำในสวนมะพร้าวพื้นที่ หมู่ 8 ต.ทุ่งขมิ้น ซึ่งเป็นจุดที่พบเลสข้อมือผู้ตายตกอยู่จนนำไปสู่การขยายผลจับกุมคนร้ายได้ทั้งหมดโดยมีสาเหตุมาจากแค้นที่ผู้ตายเป็นสายตำรวจพาไปจับแม่ของหนึ่งในผู้ต้องหา
ล่าสุดเมื่อเวลา 07.30 น.วันนี้ (30 พ.ค.) พ.ต.อ.เอนก ศรีคำอ้าว รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.สงขลา พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิวัฒน์ชัย์ ธรรมวิทยาภูมิ ผกก.สภ.นาหม่อม และ ร.ต.อ.ธีระ พวงสวน รองสารวัตรสอบสวน พร้อมกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวนสภ.นาหม่อม ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างละเอียด ประกอบด้วย นายนัฐศาสตร์หรือนิว แก้วทองกุล อายุ 24 ปี, นายวรากร หรือกร ปานเมือง อายุ 30 ปี, นายอภิรักษ์ หรือมิน สะอาด อายุ 26 ปี,นายพงศธรหรือโอม พืชน์ไพฑูรย์ อายุ 23 ปี และนายกิตติพัฒน์ หรือต้น แก้วสกูล อายุ 30 ปี โดยพาไปทำแผนรวม 5 จุดอย่างละเอียด
จุดที่ 1 ขนำในสวนมะพร้าวพื้นที่บ้านนาต้นปีก หมู่ 8 ต.ทุ่งขมิ้น ซึ่งเป็นจุดที่ นายวรัญชิต ผู้ตายได้ขับรถจักรยานยนต์มารับยาเสพติดที่ขนำ และมีเรื่องชกต่อยกันและถูกทั้ง 5 คนรุมทำร้าย ทั้งกระทืบและใช้ไม้ใช้จอบตีเข้าที่ศีรษะจนตายคาที่ ก่อนจับศพยัดใส่กระสอบและถุงนำไปทิ้ง
จุดที่ 2 เป็นจุดที่ขับรถจักรยานยนต์นำศพไปทิ้งในร่องดิน บริเวณชายป่าห่างจากถนนสายเอเชียเข้าไปประมาณ 100 เมตร พื้นที่หมู่2 บ้านโคกทัง หมู่2 ต.พิจิตร อ.นาหม่อม ซึ่งอยู่ห่างจากขนำราว 6 กิโลเมตร ซึ่งจุดนี้ นายนัฐศาสตร์ หรือนิว กับนายวรากร หรือกร เป็นคนขับรถจักรยานยนต์ขนศพไปทิ้งและนายนัฐศาสตร์ ยังได้ใช้อาวุธปืนยิงซ้ำที่หัวอีก1 นัดเพื่อให้แน่ใจว่าตายจริง รวมทั้งนายนัฐศาสตร์ ยังได้เดินข้ามศพไปมา 5 รอบเพื่อให้เป็นการตัดขาดจากวิญญาณไม่ให้ตามกลับไปหรือจำได้ว่าใครเป็นคนฆ่าตามความเชื่อ
จุดที่ 3 เป็นบ้านพักของ นายวรากร ที่อยู่ห่างจากจุดทิ้งศพประมาณ 1 กิโลเมตร ที่ทั้งนายวรากร และนายนัฐศาสตร์ ไปถอดเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดและเผาทิ้งหลังบ้าน และอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย
จุดที่ 4 เป็นจุดที่ทั้งสองคนขับรถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปทิ้งในเหมืองร้าง พื้นที่บ้านทุ่งโตนด ม.1 ต.นาหม่อม ก่อนที่จะให้เพื่อนมารับกลับไปรวมกลุ่มกันที่ขนำซึ่งเป็นจุดที่ฆ่าจุดแรกก่อนที่จะแยกย้ายกันในช่วงเช้า
จุดที่ 5 เป็นบ้านพักของ นายนัฐศาสตร์ ในพื้นที่หมู่ 5 ต.นาหม่อม ซึ่งเป็นจุดที่ไปเอาปืนขนาด.38 มายิง
โดยการทำแผนทั้ง 5 จุดผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ไม่มีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้นเนื่องจากเจ้าหน้าที่เริ่มทำแผนตังแต่ช่วงเช้าและแต่ละจุดอยู่ในป่าห่างไกลบ้านผู้คน หลังทำแผนเสร็จเจ้าหน้าที่ได้นำทั้ง5 คน กลับไปควบคุมที่สภ.นาหม่อมทันที เพื่อรอฝากขังอีกครั้ง
ในระหว่างทำแผนผู้สื่อข่าวได้สอบถามความรู้สึกของ นายนัฐศาสตร์ หรือนิว ซึ่งเป็นต้นเหตุความขัดแย้งของเรื่องนี้ บอกว่า เป็นเพราะนายวรัญชิต ผู้ตายซึ่งเป็นเพื่อนสนิทและเพื่อนรักกันเป็นสายของตำรวจพาไปค้นที่บ้านและจับกุมแม่ตนพร้อมกับยาเสพติดที่อยู่ในบ้าน ซึ่งตอนนี้แม่ประกันตัวออกมาแล้ว จึงกลายเป็นสาเหตุของความขัดแย้ง ส่วนความรู้สึกหลังก่อเหตุ นายนัฐศาสตร์ ก้มหน้านิ่งไม่ตอบอะไร
ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติของทั้งผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุพบว่ามี 3 คนที่เคยต้องคดีเรื่องยาเสพติด โดย นายวรัญชิต หรือฟิล์มผู้ตาย เคยถูกจับ 4 คดี เริ่มจากปี58 ข้อหายักยอกทรัพย์ สภ.นาหม่อม ปี 59 ข้อหาครอบครองยาเสพติด สภ.นาหม่อม 2 คดี และปี 63 ข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษ สภ.นาหม่อม
ส่วนนายนัฐศาสตร์หรือนิว เพื่อนรัก เคยต้องคดี 4 คดี เริ่มจากปี 53 ข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน สภ.นาหม่อม ปี 58 ข้อหาครอบครองยาเสพติดสภ.นาหม่อม และข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษ สภ.นาหม่อม และปี 62 ข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษ สภ.นาหม่อม
ส่วนนายอภิรักษ์ หรือมิน เคยต้องคดี 2 คดี คือ เมื่อปี 55 ครอบครองยาเสพติด สภ.นาหม่อม และปี 58 ข้อหาครอบครอยาเสพติดเพื่อจำหน่าย สภ.นาหม่อม
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง5 คนถูกแจ้งดำเนินคดีรวม 3 ข้อหา คือร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนฯ, ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย ซึ่งในชั้นการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 5 คนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา.
