ทำท่าสควอตแบบไม่บันยะบันยัง ระวัง!!เสียชีวิต

สาวๆ หลายคนอาจจะเคยใช้ท่าสควอต (Squat) เป็นทางลัดสู่ก้นเด้งกระชับ กลมสวย และยังช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนล่าง โดยเฉพาะกล้ามเนื้อขาเรียวงาม แข็งแรง ได้สัดส่วน ดูไม่ตันเป็นท่อนซุงลอยในแม่น้ำโขง แชร์รูปลงโซเชียลเมื่อไหร่ ได้ฟาดไลค์ไปรัวๆ เรียกว่าไม่พึ่งแอปฯ ก็สวยเด้งได้พีคๆ

แต่รู้ไหมว่า ถ้าทำท่าสควอตแบบไม่บันยะบันยัง เกินพอดี อาจมีความเสี่ยงถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว ดังเช่นกรณีสองสาววัยรุ่นชาวจีนที่เกือบเอาชีวิตไม่รอดจากการสควอตเกินพิกัดจนร่างกายยอมแพ้

รายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์เมโทร กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้อ้างอิงข้อมูลจากสำนักข่าวไชน่าเพรส ได้พาดหัวข่าวเรื่องราวเฉียดตายครั้งนี้ว่า “เด็กวัยรุ่นหญิง 2 คนต้องเข้าโรงพยาบาลด่วน หลังจากพบว่าไตถูกทำลายอย่างหนัก จากการแข่งทำสควอตติดต่อกัน 3 ชม.!!!”

หนึ่งในผู้ป่วยที่ต้องเข้าห้องฉุกเฉินคือ ‘เสี่ยว ถัง’ สาววัยรุ่นชาวจีน อายุ 19 ปี เธอเล่าว่า ได้วิดีโอแชทท้าแข่งทำสควอตกับเพื่อนสาวชาวจีนอีกคนในมณฑลกวางตุ้งกว่า 1,000 ครั้ง ตลอด 3 ชั่วโมง เพื่อพิสูจน์ว่าใครทำได้มากกว่าคือผู้ชนะและแกร่งที่สุด และนั่นเป็นครั้งแรกที่ เสี่ยว ถัง ได้ประลองกับเพื่อนข้ามมณฑล ในท่าออกกำลังกายแบบนี้เป็นครั้งแรก

ซึ่งตลอดเวลา 3 ชม. นั้น แน่นอนว่าทั้งคู่ต่างไม่มีใครยอมใคร แม้ไม่มีรายงานว่าสุดท้ายแล้วใครเป็นผู้ชนะ แต่ร่างกายของทั้งคู่ได้ส่งสัญญาณเตือนภัยออกมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อทั้งคู่มีอาการปวดขาชนิดที่ว่าเหยียดขาตรงไม่ได้ และเมื่อปัสสาวะก็ต้องตกใจสุดขีด เพราะมีสีน้ำตาลเข้มเหมือนน้ำชายังไงยังงั้น

เสี่ยว ถัง เล่าให้ฟังต่อว่า “นี่เป็นเรื่องที่น่าอายสุดๆ ค่ะ เพราะ ฉันแชตคุยกับเพื่อนคนนั้นทางอินเทอร์เน็ต ตอนแข่งกันไม่มีใครยอมใคร สู้กันดุเดือดมาก วันนั้นผ่านไปก็แค่เมื่อยๆ แต่ตอนเช้าวันรุ่งขึ้นก็รู้สึกผิดปกติ คือหนูไม่ได้รู้สึกแค่ปวดเมื่อยขา แต่มันงอไม่ได้เลยด้วยซ้ำ จากนั้นหนูก็เดินไปเข้าห้องน้ำ พอฉี่ออกมาก็เห็นเลยว่าปัสสาวะเป็นสีน้ำตาลแดงค่ะ”

หลังจากที่ เสี่ยว ถัง รู้ว่าเกิดเรื่องผิดปกติ จึงรีบไปหาหมอ ซึ่งหมอได้วินิจฉัยว่าเธอมี ‘ภาวะกล้ามเนื้อลายสลาย’ (Rhabdomyolysis) ซึ่งเกิดจากการออกกำลังกายสุดโต่งเกินไป ภาวะที่ว่านี้ เกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อลายสลายตัว แล้วปล่อยสารไมโอโกลบินซึ่งเป็นโปรตีน มีหน้าที่เก็บออกซิเจนในกล้ามเนื้อ ถ้าร่างกายมีสารนี้มากเกินไป แล้วกระจายเข้าสู่กระแสเลือด ก็อาจทำให้ไตวายถึงแก่ชีวิตได้

เมื่อร่างกายของ เสี่ยว ถัง ไม่สามารถขับสารนี้ออกจากร่างกายได้ จึงทำให้ปัสสาวะมีสีน้ำตาลแดงนั้นเอง และโชคดีที่เธอมาหาหมอได้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นอาจไตวายเสียชีวิตได้ ตัวเธอถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉิน ซึ่งหมอก็ได้ใช้วิธีให้ IV Drip หรือการฟื้นฟูเซลล์ให้กับเธอเป็นการเร่งด่วน

และในขณะที่เธอกำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนั้นเอง เสี่ยว ถัง ก็ได้โทรศัพท์ไปหาเพื่อนที่แชทด้วยกันคนนั้น แล้วก็รู้ว่าเพื่อนของเธอก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเช่นกัน เพราะเกิดภาวะเดียวกันกับเธอเป๊ะ ซึ่ง ดร.บรู๊ซ โคเฮน เจ้าหน้าที่แพทย์จากสำนักงานสอบสวนกลาง สหรัฐอเมริกา (FBI) กล่าวว่า “ปกติแล้วการสควอตจะไม่เป็นอันตราย แต่การที่เด็กสาว 2 คนนี้ป่วยนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากมาก เนื่องจากทำหนักหน่วงเกินขีดจำกัดของร่างกาย เพราะฉะนั้นเราจึงควรประเมินร่างกายของตัวเองให้ดีก่อนการออกกำลังกายทุกครั้ง”

ถึงตรงนี้ สาวๆ หลายคนคงอยากรู้แล้วว่า การสควอตที่ถูกวิธีต้องทำอย่างไร ท่าไหนเวิร์กกับ ต้นขาหน้า ต้นขาหลัง สะโพก และก้นกันล่ะ ตามไปดูคลิปจาก อ.ชลชัย อานามนารถ นักวิทยาศาสตร์การกีฬา จากมหาวิทยาลัยมหิดลกันเลย แต่อย่าบ้าพลังเหมือน เสี่ยว ถัง นะจ๊ะ ไม่งั้นได้นอนซมในโรงพยาบาลหรือขึ้นสวรรค์ก่อนสวยแน่นอน

ขอบคุณคลิปจาก Mahidol Channel มหิดล แชนแนล