ทารกเพศหญิงชาวอินเดียที่คลอดก่อนกำหนด และถูกฆ่าโหดด้วยการจับใส่หม้อดิน นำไปฝังทั้งเป็นในป่าช้าหมู่บ้าน ในรัฐทางภาคเหนือ แต่ดวงเธอแข็ง มีผู้ขุดพบโดยบังเอิญ เมื่อกลางเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดทีมแพทย์พยาบาลที่ให้การดูแลรักษาเธอเผยว่า อาการเธอดีขึ้น สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ และรออีกสักระยะจึงจะพิจารณายกให้ผู้ที่มีความพร้อมและเหมาะสม รับไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม จากที่มีผู้แจ้งความจำนงเป็นจำนวนมาก
ขณะที่ตำรวจท้องถิ่น ที่ยังเกาะติดสอบสวนคดีเชื่อว่า พ่อแม่ของเธอต้องมีส่วนรู้เห็นกับการฆ่าลูกในใส้ตัวเองแน่นอน เนื่องจากหายหน้าไปทั้งคู่ นับตั้งแต่เกิดเรื่อง และไม่เคยติดต่อกับตำรวจเพื่อขอรับตัวลูก
ทารกน้อยถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในเมืองบาเรลลี รัฐอุตตรประเทศ ด้วยอาการโคม่าใกล้เสียชีวิต และแพทย์ตรวจพบภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด และระดับเกล็ดเลือดต่ำ
นายแพทย์รวี คานนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเด็กเมืองบาเรลลี เผยเมื่อวันพฤหัสบดี (5 ธ.ค.) ว่า ตอนนี้ทารกน้อยน้ำหนักตัวสูงขึ้น ระบบการหายใจและเกล็ดเลือดเป็นปกติ น้ำหนักตัวเธอขณะนี้อยู่ที่ 2.57 กิโลกรัม จาก 1.1 กิโลกรัมตอนที่ถูกส่งถึงมือหมอ
ทารกน้อยถูกพบโดยบังเอิญ โดยชายชาวบ้านรายหนึ่ง ที่นำศพลูกสาวเสียชีวิตขณะคลอดของเขาเองไปฝัง ในป่าช้าของหมู่บ้านไวศาลี เมืองบาเรลลี แต่เมื่อขุดดินลงไปลึกประมาณ 3 ฟุต เสียมกะเทาะหม้อดินที่ถูกฝังก่อนหน้าแตก พบเด็กทารกร้องไห้จ้า จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่และนำเด็กส่งโรงพยาบาล
แพทย์หลายคนเชื่อว่าเธอคลอดก่อนกำหนด ประมาณ 30 สัปดาห์หลังปฏิสนธิ เธออาจถูกฝังก่อนขุดพบประมาณ 3 – 4 วัน โดยรอดชีวิตจากไขมันสีน้ำตาล (brown fat) ที่มีติดตัวเด็กทารกแรกคลอดทุกคน และหลุมฝังเธอดินกลบทับไม่แน่น ทำให้พอมีอากาศหายใจจากในหม้อดิน แต่แพทย์อีกหลายคนแย้งว่า เธอน่าจะถูกฝังก่อนการพบประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง และอาจจะเสียชีวิตไม่เกิน 1 ชั่วโมงหลังจากนั้น หากไม่มีใครไปพบ
จนถึงขณะนี้ตำรวจยังตามหัวตัวพ่อแม่ของเด็กน้อยไม่พบ และยังไม่ทราบมูลเหตุจูงใจของความพยายามฆ่าเด็กทั้งเป็น แต่เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ค่านิยมทางสังคมที่มีต่อลูกผู้หญิง ซึ่งถูกมองว่าเป็นภาระ คือสาเหตุหลัก
ปัจจุบันทารกน้อยหน้าตาน่าเอ็นดู อยู่ในความดูแลของสำนักงานสวัสดิการสังคมรัฐอุตตรประเทศ ซึ่งเจ้าหน้าที่เผยว่า อีกไม่นานจะมีการพิจารณาตรวจสอบ ก่อนจะยกเธอให้เป็นบุตรบุญธรรมของผู้แสดงความจำนงต่อไป.
