โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ทันสถานการณ์โลก 06.30 น. วันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2563

JS100

อัพเดต 20 ม.ค. 2563 เวลา 05.40 น. • เผยแพร่ 19 ม.ค. 2563 เวลา 23.13 น. • JS100:จส.100
ทันสถานการณ์โลก 06.30 น. วันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2563
ทันสถานการณ์โลก 06.30 น. วันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2563

จีนติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่ม 17 ราย

          ทางการจีนแถลงว่า ที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มอีก 17 ราย โดยเป็นผู้ที่มีอาการน่าเป็นห่วง 3 รายในกลุ่มนี้มีอาการถึงขั้นวิกฤติ 2 ราย ซึ่งทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 62 รายแล้ว และเสียชีวิตแล้ว 2 ราย แต่มีอยู่ 19 คนที่รักษาหายและออกจากโรงพยาบาลแล้ว ที่เหลือแยกรักษาแบบกักกันโรค ผู้ติดเชื้อทั้งหมดมีอายุระหว่าง 30-79 ปี

          ในสัปดาห์ที่ผ่านมาหลายประเทศในเอเชียรวมถึงไทย ยืนยันพบผู้ติดเชื้อซึ่งมีประวัติการเดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น แม้องค์การอนามัยโลกไม่แนะนำให้ใช้มาตรการจำกัดการเดินทาง แต่หน่วยงานกำกับดูแลสนามบินของประเทศต่าง ๆ ได้ใช้มาตรการคัดกรองผู้ที่เดินทางจากอู่ฮั่นเป็นพิเศษ 

          ศูนย์วิเคราะห์โรคติดต่อระหว่างประเทศ MRC แห่ง Imperial College ลอนดอน เผยแพร่รายงานเตือนว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มากกว่ารายงานที่ทางการจีนประกาศไว้ โดยน่าจะมีจำนวนถึง 1,723 ราย และมีความเป็นไปได้ที่จะมีการแพร่กระจายเชื้อโรคในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่มีการหยุดงานนาน 40 วันและจะมีการเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วประเทศ และในต่างประเทศ ทั้งเตือนความเป็นไปได้ที่จะมีการติดต่อระหว่างมนุษย์สู่มนุษย์มากขึ้น

          เทศบาลเมืองอู่ฮั่น มีการติดตั้งระบบกล้องเทอร์โมสแกน เพื่อคัดกรองผู้ที่มีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่าปกติตามสนามบิน สถานีรถไฟ และสถานีรถประจำทางทุกแห่งในเมืองแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขขึ้นทะเบียนผู้ที่มีประวัติติดเชื้อ หรือ อาจติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และมีการสุ่มตรวจสุขภาพประชาชนแล้วเกือบ 3 แสนคน

ไทยส่งกลับผู้ป่วยซึ่งได้รับการรักษาจนหายเป็นปกติแล้ว

          นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป ในฐานะผู้บัญชาการของศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวหญิงชาวจีนอายุ 61 ปี ที่ป่วยปอดอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ขณะนี้หายดีแล้ว และส่งกลับเมื่อคืนวันที่ 18 มกราคม โดยหญิงชาวจีนรายนี้ เป็นผู้ป่วยรายแรกของไทยและรายแรกที่พบนอกประเทศจีน

          ด้านนายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เปิดเผยกรณีพบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังเมื่อวันที่ 15 มกราคม ซึ่งเป็นหญิงชาวไทยอายุ 73 ปี เดินทางไปท่องเที่ยวที่เมืองอู่ฮั่นช่วงก่อนปีใหม่ และในช่วง 14 วัน หลังเดินทางกลับมามีอาการไข้ หายใจเหนื่อย จึงมาตรวจที่โรงพยาบาล แพทย์จึงรับผู้ป่วยไว้ในห้องผู้ป่วยแยกโรคความดันลบตามมาตรฐาน ขณะนี้ผู้ป่วยอาการดีขึ้น แต่เนื่องจากมีโรคประจำตัว คือโรคหัวใจและความดันโลหิตสูงจึงต้องให้การดูแลอย่างใกล้ชิด และ ยังคงต้องเฝ้าระวังอาการจนกว่าจะได้ผลตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ

สวิตเซอร์แลนด์ เป็นประเทศที่มีภาพรวมดีที่สุดในโลก ไทยอยู่อันดับ 26

          สื่อสหรัฐฯ U.S. NEWs & World Report จัดทำรายงาน 2020 Best Countries ซึ่งเป็นการจัดอันดับ 73 ประเทศ ที่มีภาพรวมดีที่สุดในโลกโดยอ้างอิงจากข้อมูลอาทิ คุณภาพชีวิต การเคารพสิทธิประชาชน และมรดกทางวัฒนธรรม โดยสุ่มสอบถามกลุ่มตัวอย่าง 2 หมื่นคนทั่วโลก ปรากฏว่าสวิตเซอร์แลนด์ครองอันดับหนึ่งต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ตามมาด้วยแคนาดา และญี่ปุ่นที่ติดอันดับสองและสาม โดยในกลุ่ม 10 อันดับแรกยังมี เยอรมนี ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา สวีเดน เนเธอร์แลนด์ และนอร์เวย์ ส่วนประเทศไทยติดอันดับที่ 26

          สำหรับคำถามในแบบสอบถาม จะแบ่งออกเป็น 9 ประเด็นได้แก่ ความเป็นมิตร ความสนุกสนาน อากาศที่ดี และทัศนียภาพที่สวยงาม, สิทธิมนุษยชน ความเท่าเทียมกันทางเพศ การเคารพกรรมสิทธิ์ที่ดิน และการกระจายอำนาจอย่างทั่วถึง, อิทธิพลทางวัฒนธรรม, โอกาสการสร้างกิจการ, มรดกทางวัฒนธรรม, โอกาสที่ดีขึ้นในอนาคต การขยายตัวทางเศรษฐกิจ, การเปิดกว้างทางธุรกิจ, บทบาทในเวทีโลก และคุณภาพชีวิต

          โดยประเทศไทยมีความโดดเด่นในเรื่องการเปิดกว้างทางธุรกิจ โอกาสที่ดีขึ้นในอนาคต และมรดกทางวัฒนธรรม

IMF เผยข้อตกลงการค้าจีน-สหรัฐฯจะช่วยลดปัจจัยความไม่แน่นอนทั่วโลก

          นางคริสตาลินา จอร์จีวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า การลงนามในข้อตกลงการค้าระยะแรกระหว่างสหรัฐฯ กับจีนจะช่วยลดปัจจัยความไม่แน่นอนที่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก โดยในวันนี้ (20 ม.ค.) ไอเอ็มเอฟจะเปิดเผยรายงานผลกระทบต่อที่ประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์

          ไอเอ็มเอฟ คาดการณ์ว่า ข้อตกลงการค้าจะช่วยสนับสนุนการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพีของจีนขยายตัวราวร้อยละ 6 ในปีนี้

วิกฤติอากาศกระทบจีดีพีโลกมากกว่าครึ่ง

          นอกจากนี้ในการประชุม WEF จะมีการเปิดเผยรายงานของ PricewaterhouseCoopers (PwC) สหราชอาณาจักร เรื่อง "เศรษฐกิจธรรมชาติใหม่" ที่ระบุว่า ปี 2562 เป็นปีที่มหาสมุทรโลกร้อนเป็นประวัติการณ์ อุณหภูมิเฉลี่ยโลกสูงสุดเป็นปีที่ 2 และเกิดไฟป่าหลายพื้นที่ตั้งแต่สหรัฐฯไปจนถึงป่าแอมะซอนและออสเตรเลีย สร้างความเสียหายให้กับจีดีพีโลกกว่าครึ่ง เนื่องจากผลผลิตเหล่านี้ที่คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจ 44 ล้านล้านดอลลาร์ ต้องพึ่งธรรมชาติในระดับปานกลางหรือระดับสูงมาก จึงเกิดความเสี่ยงหากธรรมชาติเสียหาย ผู้วิจัยจึงเสนอให้กำหนดความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติเสียใหม่ จะต้องไม่มองว่าการที่ธรรมชาติเสียหายจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นเรื่องภายนอกอีกต่อไป

….

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0