โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ทองคำ 1,600 ยังน้อยไป เป้าหมายต่อไป 2,000 ดอลลาร์

Businesstoday

เผยแพร่ 25 ก.พ. 2563 เวลา 00.30 น. • Businesstoday
ทองคำ 1,600 ยังน้อยไป เป้าหมายต่อไป 2,000 ดอลลาร์

ในขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกกำลังอยู่ในภาวะหวาดวิตกโคโรน่า ดิ่งลงแบบทำสถิติต่ำแล้วยังมีโอกาสต่ำอีก แต่ตลาดทองคำ กลับทะยานทำสถิติใหม่ในรอบหลายปี 

ภาวะตลาดกระทิงของ ทองคำ ก็เกิดมาจากความกังวลเรื่องผลกระทบโคโรน่า ที่มีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก  โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า การแพร่ระบาดของ COVID-19 นอกจากจะสร้างความสูญเสียทางด้านสุขภาพอนามัยแล้ว ยังทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกต้องเผชิญกับความเสี่ยงด้วย แม้ในกรณีที่โลกเราสามารถหยุดยั้งการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วก็ตาม

โดย IMF ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของจีนในปี 2563 ลงสู่ระดับ 5.6% และประเมินว่าระบาดของโคโรน่ากระทบต่อเศรษฐกิจของจีน  ที่ขับเคลื่อนด้วยการบริโภคในประเทศ  โดยการระบาดดังกล่าวส่งผลต่อการบริโภคของประชาชน  และหากเศรษฐกิจจีนชะลอตัว  ด้วยขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ย่อมกระทบต่อเศรษฐกิจภาพรวมของทั้งโลก

ซีตี้แบงก์มอง ทองคำ ทะยาน 2,000 ดอลลาร์ ใน 2 ปี

ด้วยความวิตกดังกล่าว  จึงเป็นตัวกระตุ้นให้นักลงทุนที่ต้องการลดความเสี่ยง  มองหาสินทรัพย์ที่น่าจะรับมือกับภาวะดังกล่าวได้  โดยเฉพาะทองคำที่ราคาปรับตัวขึ้นมาทะลุ 1,600 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อ ออนซ์  ทำสถิติสูงสุดในรอบ 7 ปี นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2013

Aakash Doshi” นักวิเคราะห์ของซิตี้แบงก์ ประเมินว่า ความกังวลต่อผลกระทบของการระบาดของไวรัสโคโรน่า หรือ COVID-19 จะเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทองคำขึ้นไปทดสอบระดับ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อ ออนซ์  ในช่วงเวลา 1-2 ปีนี้

ในขณะที่ระยะสั้น 6 เดือนถึง 1 ปีข้างหน้า ซิตี้แบงก์ ประเมินว่าราคาทองคำ มีเป้าหมายที่ 1,700 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อออนซ์  โดยราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงนี้ Aakash Doshi ระบุว่าเป็นความกังวลของนักลงทุน นอกจาภาพรวมเศรษฐกิจแล้ว  ยังมีความไม่แน่นอนของสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ  รวมทั้งการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปลายปี 2020 ด้วย

ดอกเบี้ยต่ำ ยิ่งหนุนทองคำ

Aakash Doshi” ระบุว่า ด้วยปัจจัยเศรษฐกิจ ณ ขณะนี้ยิ่งเป็นตัวหนุนราคา ทองคำ  เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกอยู่ในระดับต่ำ  จึงยิ่งช่วยกระตุ้นให้นักลงทุนมองหาอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่า

สอดคล้องกับ “ชลธิศ นวลพลับ” ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกล์ดฟิวเจอร์ส จำกัด  ระบุว่า  ในระยะสั้นความกังวลต่อการแพร่ระบาด  ส่งผลให้ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้น  ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

แต่ในระยะยาว ต้องประเมินว่าการแพร่ระบาดของโคโรน่าจะกินเวลายาวนานเพียงใด  และจะกระทบต่อเศรษฐกิจโลกมากน้อยเพียงใด  หากมีผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก  จนถึงขั้นต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลดดอกเบี้ย  ก็อาจทำให้ราคาทองคำเฉลี่ยปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน

ราคาทองคำในประเทศ วันเดียวขึ้นลง 12 รอบ

รายงานราคาทอง ประจำวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563 ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ  มีการปรับเปลี่ยนขึ้นลงวันเดียวถึง 12 รอบ  โดยเปิดตลาดราคา ทองคำ ปรับขึ้นทันที 450 บาท  ตามราคาทองคำตลาดโลกที่ปรับขึ้นทำสถิติใหม่ในรอบ 7 ปี  โดยสรุปทั้งวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563  ราคาทองคำในประเทศปรับเพิ่มขึ้น 750 บาท

ราคาทองคำ 24 กุมภาพันธ์ 2563 | ที่มา : สมาคมค้าทองคำ
ราคาทองคำ 24 กุมภาพันธ์ 2563 | ที่มา : สมาคมค้าทองคำ

โดย “จิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี” นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า ปัจจัยหลักมาจากปัจจัยเดิม คือ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา(โควิด-19) ซึ่งมีแนวโน้มจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และรวมถึงเศรษฐกิจไทย

โดยประเมินว่าแนวโน้มราคาทองคำยังน่าจะปรับราคาขึ้นต่อโดยไม่สามารถระบุจุดสิ้นสุด จนกว่าจะสามารถค้นพบยารักษาเชื้อไวรัสโคโรนา

“เวลานี้คนส่วนใหญ่มีความกังวลต่อการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ทั้งหุ้นร่วง ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาก เพราะคนหันมาลงทุนในทองคำ เพราะเป็นสินทรัพย์เสี่ยงที่ปลอดภัยที่สุด  เพราะกลัวเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยแผ่วลงอีก”

ขณะที่ “วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส” มีมุมมองว่า หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,687-1,694 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำเมื่อมีการปรับตัวขึ้นแรงก็จะมีแรงขายทำกำไรออกมาแรงเช่นกัน

โดยนักลงทุนที่สะสม ทองคำ ไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป

และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยให้เน้นไปที่การเข้าซื้อ ทั้งนี้ประเมินแนวรับแรกไว้ที่ 1,668 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,652 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0