รายงานข่าวจากสมาคมค้าทองคำแจ้งว่า ราคาทองคำเช้านี้เคลื่อนไหวผันผวนช่วงเช้าเปิดตลาดปรับขึ้น 250 บาท และเวลา 10.26 น. ปรับลง 50 บาท รวมเป็นการปรับขึ้น 200 บาท ราคาต่างประเทศอยู่ที่ 1,443 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากช่วงเช้าอยู่ที่ 1,444 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 30.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากช่วงเช้าอยู่ที่ 30.76 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้แท่งรับซื้อบาทละ20,850 บาท ขายออกบาทละ 20,950 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 20,481.16 บาท และขายออกบาทละ 21,450 บาท
รายงานข่าวจากบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด แจ้งว่า ราคาทองคำวานนี้ทะยานขึ้นอีก 19 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ หลังนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดนิวยอร์ก กล่าวว่า “เรากำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาและอัตราเงินเฟ้อที่ระดับต่ำ สิ่งที่ควรทำก็คือ รีบดำเนินการอย่างรวดเร็ว และเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้ยาวนานขึ้น" ถ้อยแถลงดังกล่าวกระตุ้นการคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 30-31 ก.ค.นี้ สะท้อนจาก Fedwatch Tool ของ CME ที่บ่งชี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดอาจจะลดดอกเบี้ย 0.5% ปลายเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 46.2% ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันดอลลาร์จนหนุนทองคำ
นอกจากนี้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยยังได้รับแรงหนุนเพิ่ม จากการเผชิญหน้ากันครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐและอิหร่าน หลังจากอิหร่านได้ยึดเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่ง พร้อมกับลูกเรือ 12 คนในช่องแคบฮอร์มุซ ล่าสุดกองทัพเรือสหรัฐยิงโดรนอิหร่านตก หลังจากที่โดรนลำดังกล่าวเข้าใกล้เรือของสหรัฐ ปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นหนุนให้ราคาทองคำทะยานขึ้น +1.3% วานนี้ พร้อมกับทำระดับสูงสุดครั้งใหม่ของปีนี้บริเวณ 1,452.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงเช้าวันนี้ของตลาดเอเชีย ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่มวานนี้อีก +11.44 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยคาดการณ์ความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก UoM และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด