พลทหารร้องขอให้ทนายรณณรงค์ ช่วยเหลือทางด้านคดี หลังได้รับอุบัติเหตุตกรถกระบะขณะปฏิบัติหน้าที่กระดูกขาหักแตกละเอียด 3 ท่อน รักษาตัวมาเกือบ 8 เดือน แพทย์ลงความเห็นอาจจะต้องรักษาตัวนานกว่า 1 ปี และอาจทำงานหนักไม่ได้ แต่ไม่ได้รับการเยียวยาจากหน่วยงานต้นสังกัด หวั่นอีกไม่กี่เดือนจะปลดทหารและอาการยังไม่ดีขึ้นจะไม่สามารถรักษาตัวเองจนหายดีได้
เมื่อวันที่ 21 ส.ค.62 ที่สำนักงานทนายคู่ใจ ถนนแจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายวิโรจน์ ปิ่นทอง อายุ 51 ปี บิดา ชาว จ.ปทุมธานี พร้อมนายทวีทรัพย์ ปิ่นทอง อายุ 26 ปี ลูกชาย พลทหารสังกัดกรมทหารต่อสู้อากาศยาน รักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน เดินทางเข้าพบทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อร้องขอให้ช่วยเหลือทางด้านคดี กรณีลูกชายได้รับอุบัติเหตุตกจากรถยนต์กระบะในขณะปฏิบัติหน้าที่ราชการ ได้รับบาดเจ็บสาหัสกระดูกขาหัก 3 ท่อน กระดูกแตกละเอียด เข้าพักรักษาตัวที่ รพ.ภูมิพล ซึ่งแพทย์ลงความเห็นว่าอาจจะต้องรักษาตัวนานกว่า 1 ปี แต่ไม่ได้รับการเยียวยาจากหน่วยงานต้นสังกัด
นายทวีทรัพย์ กล่าวว่าตนเป็นทหารเกณฑ์โดยการสมัครเข้าไปรับราชการเมื่อปี 2560 จากนั้นเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.62 นายทหารชื่อจ่าหลอดได้ขอกำลังให้ไปช่วยขนย้ายของ โดยทีตนและนายโป้ง (นามสมมุติ) เพื่อนทหารอีก 1 คนไปช่วยขนย้ายโดยใช้รถกระบะตอนเดียวขนของพวกตู้เหล็กเอกสาร ย้ายไปที่คลังใหญ่ของกรมพลาธิการ โดยมีนายทหาร 2 นายเป็นคนขับและนั่งด้านหน้ารถไป ส่วนเพื่อและตนนั่งด้านหลังรถคอยพยุงของที่บรรทุกเนื่องจากไม่มีเชือกรัดของไว้ โดยเพื่อนนั่งท้ายกระด้านหลังคนขับ ส่วนตนยืนที่ตรงซุ้มล้อหลังด้านซ้ายเพื่อจับตู้เอกสารไม่ให้ล้ม ระหว่างทางเป็นช่วงโค้งทำให้ตู้เอกสารล้มมากระแทกขาตนและขาอีกข้างของตนตกจากรถ จนร่างกระเด็นตกตามลงมาในที่สุด จากนั้นห่างไปประมาณ 50 เมตรตู้เอกสารก็ตกตามลงมา โดยที่คนขับไม่ทราบเรื่องเพื่อนของตนจึงได้เคาะหลังคาเรียกให้คนขับหยุดรถ ส่วนตนได้รับบาดเจ็บเจ้าหน้าที่กู้ภัย จ.พระนครศรีอยุธนาซึ่งขับรถผ่านมาเห็นเหตุการณ์ได้ช่วยเหลือนำตัวส่ง รพ.ภูมิพลอดุลยเดช ผ่าตัดรักษาตัวผ่านมาเกือบ 8 เดือน และแพทย์ลงความเห็นว่าอาจจะต้องรักษาตัวนานกว่า 1 ปี และอาจทำงานหนักไม่ได้ การรักษาทั้งหมดโดยใช้สิทธิทหารรักษา แต่ยังไม่ได้รับการเยียวยาใดๆ จากหน่วยงานและหัวหน้างาน ตนกังวลว่าอีกไม่กี่เดือนตนจะปลดทหารแล้วและอาการยังไม่ดีขึ้นจะไม่สามารถรักษาตัวเองจนหายดีได้
ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า สำหรับคดีนี้จะเดินทางเข้าแจ้งความที่กองปราบปรามให้ดำเนินคดีกับจ่าทหารที่ประมาทเป็นเหตุให้ทหารอากาศได้รับอันตรายสาหัส เพราะขับรถให้ทหารเกณฑ์อยู่ท้ายกระบะและไม่มีการผูกมัดสิ่งของ มันกิดจากความประมาทของผู้ควบคุมยานพาหนะ ซึ่งต้องรับผิดชอบตามกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญา กฎหมายอาญาทหารทำความผิดระหว่างปฏิบัติหน้าที่ก็ต้องขึ้นศาลทหาร สำหรับคดีทางแพ่งเรียกร้องความเสียหายต้องฟ้องคดีทางแพ่งเรียกค่าเสียหายอีกทีหนึ่ง จากอาการพลทหารถือว่าสาหัส ไม่สามารถกลับมาเดินได้ปกติ เรื่องนี้เป็นทหารทั้งสองฝ่าย คนที่จะตอบคำถามได้ดีที่สุดคือ รมต.กระทรวงกลาโหมคนใหม่ เพราะทหารเกณฑ์เข้าไปทำงานในกองทัพเกิดเรื่องแบบนี้จะมีความรับผิดชอบไหม หรือผู้เสียหายต้องฟ้องเอาอย่างเดียว สำหรับส่วนราชการแบบนี้ถ้าบาดเจ็บระหว่างปฎิบัติหน้าที่ต้องได้รับการเยียวยา การรักษาดูแล ต้องเป็นรายลักษณ์อักษรไม่ใช่ลอยไปลอยมาแล้วทหารคนนี้ตั้งใจเป็นทหารสมัครเข้ามา
เบื้องต้นในวันนี้ครอบครัวผู้สียหายและทนายความจะเดินทางเข้าแจ้งความที่กองปราบปรามเพื่อให้เร่งรัดคดีความให้ เพื่อเรียกร้องให้มีการเยียวยารักษาพยาบาลจนกว่าจะกลับมาเป็นปกติ และดำเนินคดีกับผู้ขับขี่ในวันเกิดเหตุตามกฏหมายต่อไป
