ดีเอสไอร่วมกับ กสทช. บุกค้นเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์และพนันออนไลน์รายใหญ่ 19 จุดทั่วประเทศ จุดสำคัญในบ้านพักซอยเสือใหญ่ฯ เป็นแม่ข่าย “เช่าเซิร์ฟเวอร์-ปล่อยสัญญาณ” ให้เว็บไซต์ภาพยนตร์ออนไลน์ต่างๆ ฟรี แต่แอบแฝงโฆษณาขายภาพยนตร์ลามกอนาจารและเว็บไซต์พนันฟุตบอล มีสมาชิก 25 ล้านคน เก็บค่าสมาชิกเป็นรายเดือน มูลค่าความเสียหายกว่า 4,000 ล้านบาท รวมทั้งขายกล่องแอนดรอยด์บ็อกซ์บรรจุแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์ แฉมีกลุ่มนักธุรกิจคนรุ่นใหม่จบปริญญาโทด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์มารวมตัวกันทำผิดกฎหมาย พบว่าในรอบ 2-3 ปี ทำรายได้จากเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์ถึง 300 ล้านบาท
บุกทลายแม่ข่ายเช่าเซิร์ฟเวอร์ปล่อยสัญญาณให้เว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์และพนันออนไลน์ เปิดเผยขึ้นที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 13 ธ.ค. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ท.วิชัย สุวรรณประเสริฐ ผอ.กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ และนายสุธีระ พึ่งธรรม รักษาการ ผอ.กสทช.ภาค 1 และนายรัชพร วรอินทร์ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการข่าวและสืบสวนสอบสวนคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ดีเอสไอ ร่วมแถลงข่าวปฏิบัติการตรวจค้นเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์และพนันออนไลน์รายใหญ่ระดับประเทศ
พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าวว่า ดีเอสไอร่วมกับ กสทช.นำกำลังกว่า 120 นาย กระจายกำลังเข้าตรวจค้นสถานที่เป้าหมายพร้อมกันในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สุพรรณบุรี เชียงใหม่ และลำปาง 19 จุด เพื่อจัดเก็บพยานหลักฐาน ประกอบด้วย รายละเอียดผู้ดูแลระบบ ผู้จดทะเบียนเว็บไซต์ ผู้ที่เกี่ยวข้องและสนับสนุน คอมพิวเตอร์แม่ข่ายที่ใช้กระทำผิด และกล่องถ่ายทอดสัญญาณ มูลค่าความเสียหายกว่า 4,000 ล้านบาท
“การตรวจค้นบ้านเลขที่ 5/127 ซอยรัชดาภิเษก 36 (ซอยเสือใหญ่อุทิศ) แยก 7 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. เป็นจุดปล่อยสัญญาณ (สตรีมมิ่ง) เว็บไซต์ “sakkarinsai8.com” เป็นผู้ให้บริการแม่ข่ายเช่าเซิร์ฟเวอร์และปล่อยสัญญาณ (สตรีมมิ่ง) ให้กับเว็บไซต์ “Doo4k.tv” “Movie2free” “bigapp.tv” และเว็บไซต์อื่นๆอีกจำนวนมาก คิดค่าบริการตั้งแต่ 70,000-100,000 บาทต่อเดือน ส่วนเว็บไซต์ “Movie2free” เป็นเว็บไซต์ดูภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีผู้เข้าชมภาพยนตร์เดือนละกว่า 25 ล้านคนต่อเดือน เป็นเว็บให้ดูภาพยนตร์ออนไลน์ฟรี แต่แอบแฝงโฆษณาขายภาพยนตร์ลามกอนาจารและเว็บไซต์พนันฟุตบอล จะเรียกเก็บค่าสมาชิกเดือนละ 250-350 บาท ผลการตรวจค้นทุกจุดพบเอกสารของกลางจำนวนมาก เช่น กล่องรับสัญญาณ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ บัญชีเงินฝากและจะจ้างชาวพม่าเปิดบัญชีรับโอนเงิน” พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าว
พ.ต.ท.วิชัยเผยว่า สำหรับเว็บไซต์ “Doo4k.tv” ให้บริการผ่านเอเย่นต์ใน 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ มีการขายกล่องและขายกล่องแอนดรอยด์บ็อกซ์ที่บรรจุแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์ ขณะที่เว็บไซต์ “bigapp.tv” เปิดให้บริการดูรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ออนไลน์แบบบอกรับสมาชิก มีสมาชิก 8,000 ราย คิดค่าบริการ มีทั้งภาพยนตร์ที่มีการผลิตทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ภาพยนตร์ ลามกอนาจาร และประเภทรายการถ่ายทอดสด จากการสืบสวนทางลับพบว่าผู้เกี่ยวข้อง 20 ราย เป็นกลุ่มนักธุรกิจคนรุ่นใหม่จบปริญญาโท ด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์มารวมตัวกันทำผิดกฎหมาย และพบว่าในรอบ 2-3 ปี สามารถทำรายได้จากเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์ถึง 300 ล้านบาท ยังไม่นับรวมรายได้ ที่มาจากช่องทางอื่น
“การสืบสวนยังพบว่าผู้ให้บริการเว็บไซต์พนันออนไลน์จะละเมิดลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลเพื่อเปิดให้ดูฟรีแล้วจูงใจให้แทงพนันผลบอล ผู้ประกอบการซื้อแฟรนไชส์บ่อนมาจากประเทศเพื่อนบ้าน การจับกุมครั้งนี้เป็นตัวการรายใหญ่ที่เชื่อมโยงถึงเจ้าของกิจการตัวจริง หลังจากนี้เมื่อได้พยานหลักฐานครบถ้วนจะแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีให้ครบถ้วนทุกราย ส่วนเว็บไซต์ที่เข้าตรวจค้นในวันนี้ถูกระงับสัญญาณแพร่ภาพทั้งหมดแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าติดตามว่าจะเปิดเว็บไซต์อื่นเพื่อกระทำความผิดต่อไปอีกหรือไม่” พ.ต.ท.วิชัยกล่าว
ขณะที่นายสุธีระกล่าวว่า กสทช.นำกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจค้น 2 พื้นที่คือ จ.นนทบุรี และนครปฐมพบกล่องแอนดรอยด์บ็อกซ์จำนวนมาก กล่องดังกล่าวจะต้องนำมาตรวจสอบว่ามีใบอนุญาตนำเข้าและจำหน่ายถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีใบอนุญาต และหลังจากนี้จะขยายผลการตรวจสอบไปยังเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์รายอื่นๆด้วย
