"ทรัมป์"สั่งระงับโรงงานสหรัฐฯส่ง"ชิป"ป้อนหัวเว่ย

ล่าสุดได้มีรายงานข่าวว่า  บริษัทยักษ์ใหญ่อื่นๆ ในอเมริกาได้รับคำสั่งออกมาว่า ห้ามส่งสินค้าให้กับหัวเว่ย ไม่ว่าจะเป็น Intel, Qualcomm และ Broadcomm ซึ่งทั้งหมดอยู่ในวงการเทคโนโลยี และเกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักของหัวเว่ยทั้งสิ้น

โดยรายงานจาก Bloomberg ระบุว่า ขณะนี้พนักงานในโรงงานผลิตชิปหลักๆ ของสหรัฐอเมริกานั้น ต่างได้รับจดหมายให้ระงับการส่งสินค้าให้กับหัวเว่ยทันที จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เพิ่มเติม ซึ่งฝั่งของ Intel ก็มีการส่ง CPU ให้กับหัวเว่ยนำไปใช้กับเซิฟเวอร์ คอมพิวเตอร์ รวมถึงโน็ตบุคอย่าง MateBook ที่ขณะนี้กำลังเร่งทำตลาดอยู่  ทางด้านของ Qualcomm เองก็ต้องหยุดการส่งชิปโมเดม และ CPU ให้กับหัวเว่ยเช่นกัน  แต่ส่วนนี้น่าจะกระทบไม่มาก เพราะฝั่งของจีนเองก็ยังมีโรงงาน HiSilicon ที่ทำชิปโมเดมเองและ CPU ของ Kirin อยู่แล้ว

นอกจากนี้ ยังมี Xilinx และ Broadcom ที่ผลิตชิ้นส่วนสำหรับอุปกรณ์เครือข่าย ซึ่งกรณีนี้น่าจะกระทบกับธุรกิจหลักของหัวเว่ย ในเรื่องของการวางโครงข่ายและระบบเน็ตเวิร์คโดยตรง  แต่รายงานดังกล่าวยังเป็นข้อมูลจากพนักงานภายในองค์กรณ์เท่านั้น ยังไม่มีแถลงการณ์จากทางบริษัทออกมาแต่อย่างใด

ขณะที่ รายงานจาก Nikkei ระบุว่า มีข้อมูลเพิ่มเติมมาจากทางฝั่งยุโรปว่า บริษัทของเยอรมันอย่าง Infineon ที่ผลิตอุปกรณ์ไมโครคอนโทรลเลอร์ และชิปควบคุมการประหยัดพลังงานส่งให้ทางหัวเว่ยนั้น  ต้องระงับการส่งสินค้า เนื่องจากอุปกรณ์ที่ผลิตนั้นมีการใช้สิทธิบัตรจากทางสหรัฐอเมริกา ซึ่งกรณีดังกล่าวอาจจะส่งผลต่อเนื่องไปยังหลายๆ บริษัทในยุโรปและเอเชีย เพราะตามกฏที่ประกาศของสหรัฐนั้น หากบริษัทใดๆ ที่ไม่ดำเนินการตาม ก็จะโดนสหรัฐอเมริกาแบนไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด Huawei Mobile ประเทศมาเลเซีย ได้ออกมาประกาศย้ำแล้วว่า พร้อมจะสนับสนุนโทรศัพท์ภายใต้แบรนด์ Huawei และ Honor ทุกรุ่นที่ได้ออกวางจำหน่ายทั่วโลกต่อไป

โดยทางหัวเว่ย ชี้แจงว่า บริษัทได้มีส่วนร่วมในการพัฒนา OS Android มาโดยตลอดหลายปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังเป็นอีกหนึ่งพาร์ทเนอร์ที่สำคัญของระบบปฏิบัติการ Android ด้วย   ซึ่งพวกเขาพร้อมที่จะปล่อยแพทช์อัพเดทความปลอดภัยและบริการหลังการขายให้กับสมาร์ทโฟนภายใต้แบรนด์หัวเว่ยที่ได้วางจำหน่ายไปแล้วทั้งหมด   ส่วนหลังจากนี้ทางหัวเว่ยเอง ก็จะพัฒนาระบบและซอฟต์แวร์เพื่อให้ผู้ใช้งานทุกคนได้รับประสบการณ์ที่สุดยอดจากสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยต่อไป

source : theverge , Bloomberg , Nikkei,DroidSans.com