วอชิงตัน, 7 เม.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันอังคาร (7 เม.ย.) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยว่ามีหลักฐานบ่งชี้ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกาเสี่ยงป่วยเป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) มากกว่าคนเชื้อสายอื่นในสหรัฐฯ
ทรัมป์กล่าวว่ารัฐบาลสหรัฐฯ กำลังดำเนินการอย่างแข็งขัน เพื่อจัดการผลกระทบที่เพิ่มสูงขึ้นของโรคโควิด-19 ต่อชุมชนชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกาในสหรัฐฯ
“มันไม่สมดุล” ทรัมป์แถลงข่าวที่ทำเนียบขาว และเสริมว่าเขารู้สึกกังวลกับตัวเลขที่พุ่งสูงของผู้ติดเชื้อชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกาอย่างมาก
ดร. แอนโทนี ฟอซี (Anothony Fauci) ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวว่าปัจจัยที่อาจทำให้ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกาและชุมชนคนกลุ่มน้อยติดเชื้อสูงคืออัตราการป่วยเป็นโรคอื่นอยู่ก่อนในระดับสูง เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคอ้วน และโรคหอบหืด รวมถึงอัตราการโดยสารขนส่งสาธารณะที่สูงกว่าคนกลุ่มอื่น
“เรารู้สึกกังวลอย่างมากและมันเป็นเรื่องที่น่าเศร้า ตอนนี้เรายังทำอะไรไม่ได้นอกจากดูแลพวกเขาให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแทรกซ้อน” ฟอซีกล่าว
ทรัมป์กล่าวว่าทำเนียบขาวจะเผยแพร่ข้อมูลด้านเชื้อชาติของผู้ป่วยโรคโควิด-19 เร็วๆ นี้
ไมก์ เพนซ์ (Mike Pence) รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบวุ่า “มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดโศกนาฏกรรม” และสถานการณ์นี้ “ย้ำเตือนให้พวกเราต้องระมัดระวังอย่างมากในการรักษาผู้คนที่มีอาการป่วยอยู่ก่อน”
เมื่อวันอังคาร (7 เม.ย.) เทศมณฑลลอสแอนเจลิสเผยแพร่ข้อมูลด้านเชื้อชาติของผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 บางส่วนเป็นครั้งแรก ซึ่งระบุว่าชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกามีความเสี่ยงจะเสียชีวิตจากการติดเชื้อมากกว่าคนกลุ่มอื่น
“เมื่อเราดูสถิติของจำนวนประชากรทั้งหมดในคนแต่ละกลุ่ม เราจะเห็นได้ว่าชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกามีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าคนชาติอื่นเล็กน้อย” บาร์บารา เฟอร์เรอร์ (Barbara Ferrer) ผู้อำนวยการด้านสาธารณสุขของเทศมณฑลฯ กล่าว
อนึ่ง ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์รายงานสถิติล่าสุดว่าสหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้อในประเทศ 398,809 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิตแล้ว 12,895 ราย เมื่อนับถึง 9.45 น. ของวันพุธ (8 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่นไทย
