ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวในวันนี้ (25 ส.ค.) ปฏิเสธในเรื่องที่ว่า การที่เขาทำสงครามการค้ากับจีน เป็นสาเหตุให้เกิดข้อขัดแย้งในกลุ่มชาติอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ชาติ (จี7) แต่ระบุว่า จะวางมือจากการข่มขู่ ที่ทำให้ความขัดแย้งรุนแรงขึ้น
“ผมคิดว่าพวกเขาเคารพในการทำสงครามการค้า มันเป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้น” ทรัมป์กล่าวต่อผู้สื่อข่าวในเมืองบิอาริตซ์ ฝรั่งเศส สถานที่จัดการประชุมผู้นำกลุ่มจี7
ส่วนในข้อถามที่ว่า บรรดาผู้นำประเทศอื่นๆ วิจารณ์เกี่ยวกับการค้าที่ยากลำบากอย่างมากหรือไม่ ผู้นำสหรัฐ ตอบว่า “ไม่ ไม่เลย ผมไม่ได้ยินเรื่องนั้นเลย”
กระนั้นก็ตาม รายงานข่าวระบุว่า กลุ่มชาติยุโรป ที่เป็นสมาชิกจี7 ต่างย้ำถึงความกังวลเกี่ยวกับภัยคุกคามทางการค้า ที่มีต่อเศรษฐกิจโลกในวงกว้าง
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ กล่าวกับทรัมป์ ระหว่างการร่วมรับประทานอาหารเช้าว่า พวกเขาไม่ชอบการขึ้นภาษีโดยรวม และอยากให้เกิดการค้าที่สงบสุขมากกว่า
ทั้งนี้ การเจรจาระหว่างสหรัฐ และจีน ต่อเรื่องความขัดแย้งทางการค้า ที่ทรัมป์ระบุว่า เป็นความสัมพันธ์ทางการค้าที่ไม่ยุติธรรม มีแนวโน้มว่าจะเดินทางมาถึงทางตัน หลังเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (23 ส.ค.) ทรัมป์ออกมาตอบโต้กรณีที่จีนประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ ด้วยการเพิ่มปริมาณการเก็บภาษีสินค้า ทั้งในส่วนที่ขึ้นไปแล้ว และที่มีกำหนดที่จะขึ้นในวันที่ 1 กันยายนนี้
แต่ในวันนี้ ทรัมป์ก็ได้ส่งสัญญาณอีกครั้ง ยอมรับว่า ตัวเขาเองก็มีข้อกังขาเกี่ยวกับสงครามการค้าที่รุนแรงเพิ่มขึ้นเช่นกัน และบอกว่า เขามีความคิดสำรองไว้กับทุกเรื่อง สถานการณ์ที่เหล่าผู้สังเกตการณ์บอกว่า ผู้นำสหรัฐมีท่าทีที่อ่อนลงเล็กน้อย