โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ทรงผมแบบนี้ไว้ได้นะครู! ถ้าไม่เชื่อไปถามกระทรวงศึกษาธิการดู

The MATTER

อัพเดต 13 ก.ค. 2563 เวลา 16.12 น. • เผยแพร่ 13 ก.ค. 2563 เวลา 07.49 น. • Education

เปิดเทอมใหม่ ประเด็นใหญ่แวดวงการศึกษาไทย ไม่ใช่เรื่องการรับมือโควิด ไม่ใช่เรื่องจะพัฒนาการศึกษายังไงในยุคนิวนอร์มัล และไม่ใช่เรื่องจะลดความเหลื่อมล้ำยังไง เพื่อให้เด็กไทยเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียม

แต่เป็นเรื่อง.. ทรงผม!

ครูผู้หวังดี (และผู้ปกครองที่คล้อยตาม) ยังมองว่า ทรงผมที่เป็นระเบียบจะช่วยฝึก 'วินัย' ให้เด็กๆ โตขึ้นพร้อมทำตามกฎระเบียบของสังคม แต่ครูครับ ครูลืมไปแล้วหรือเปล่าว่า กระทรวงศึกษาธิการเขาเพิ่งออก 'ระเบียบว่าด้วยนักเรียน' ฉบับใหม่ มาไม่กี่เดือนก่อน ผ่อนคลายเรื่องทรงผมของเด็กๆ มากขึ้น - ทำไมครูไม่ทำตามระเบียบของกระทรวงนะ งงจัง

อวสาน หัวเกรียนกับติ่งหู ?

ทรงผมของนักเรียนชาย-หญิงที่เราคุ้นเคยกัน แท้จริงแล้วเป็นการปฏิบัติตามกฎกระทรวง (ศึกษาธิการ) ที่ออกมาโดยประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 เมื่อปี พ.ศ.2515 โน่นนน  และที่สำคัญ แค่ 3 ปีถัดมา มีการออกกฎกระทรวง (ศึกษาธิการ) อีกฉบับมาแก้ไข ให้นักเรียนชาย-ไว้ผมยาวจนถึงตีนผมได้ นักเรียนหญิง-ให้ไว้ผมยาวจนถึงต้นคอ หากโรงเรียนให้อนุญาตให้ไว้ยาวกว่านั้น ก็ให้รวบให้เรียบร้อย อ้าวๆๆ

ในปี พ.ศ.2548 ยังมีการออก พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ที่ยกเลิกกฎกระทรวง (ศึกษาธิการ) ทั้งสองฉบับมาอีกด้วย

ต่อมา ในปี พ.ศ.2556 รมว.ศึกษาธิการขณะนั้น ยังส่งจดหมายเรื่องทรงผมนักเรียนถึงโรงเรียนต่างๆ ใจความว่า กฎกระทรวงที่มีมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2515 ได้เลิกใช้ไปนานแล้ว และทรงผมนักเรียนใหม่ ชายไว้รองทรงได้ หญิงถ้าไว้ยาวให้รวบผม

อีกข้อสังเกตก็คือ การลงโทษนักเรียนด้วยการกร้อนผม ตัดแหว่ง เล็มเป็นหน้าม้าเต่อ ไถให้เห็นหนังศีรษะ ฯลฯ ไม่เพียงเป็นการละเมิดสิทธิเด็ก ยังอาจทำผิดระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียน ที่ออกมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 ซึ่งกำหนดบทลงโทษนักเรียนไว้เพียง 4 กรณี 1.ว่ากล่าวตักเตือน 2.ทัณฑ์บน 3.ตัดคะแนนความประพฤติ 4.ทำกิจกรรมเพื่อเปลี่ยนพฤติกรรม อีกต่างหาก

ทรงผมนักเรียนไทย ยุคนี้

หมดยุคหัวเกรียน-ติ่งหูมากว่า 40 ปีแล้ว เช่นนั้น นักเรียนไทยในยุคปัจจุบันจะไว้ทรงผมอะไรได้บ้างนะ

ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 ซึ่งประกาศใช้เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กำหนดไว้ดังนี้

"นักเรียนชาย จะไว้ผมสั้นหรือผมยาวก็ได้ กรณีไว้ผมยาวด้านข้าง ด้านหลังต้องยาวไม่เลยตีนผม ด้านหน้าและกลางศีรษะให้เป็นไปตามความเหมาะสมและมีความเรียบร้อย"

"นักเรียนหญิง จะไว้ผมสั้นหรือผมยาวก็ได้ กรณีไว้ผมยาวให้เป็นไปตามความเหมาะสมและรวบให้เรียบร้อย"

ใครไม่เชื่อ ไปตามอ่านกันได้ที่: http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/E/103/T_0006.PDF (มีแค่ 2 หน้าเอสี่เอง อยากให้เข้าไปอ่านกันดู)

ซึ่งแม้ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการนี้ จะไม่ได้กำหนดบทลงโทษทางอาญากรณีไม่ปฏิบัติตามไว้ เช่น จำคุกหรือปรับเงิน แต่การไม่ปฏิบัติตามระเบียบของราชการ อาจมีผลต่อการดำเนินการทางวินัย

ข้อห้าม-ข้อกำหนด

อย่างไรก็ตาม การอนุญาตให้ไว้ผมดังกล่าวของนักเรียนชาย-หญิง ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ยังมีข้อยกเว้นห้ามปฏิบัติ 4 ข้อ ดังนี้

(1) ดัดผม

(2) ย้อมสีผมให้ผิดไปจากเดิม

(3) ไว้หนวดหรือเครา

(4) การกระทำอื่นใดซึ่งไม่เหมาะสมกับสภาพการเป็นนักเรียน เช่น การตัดแต่งทรงผมเป็นรูปทรงสัญลักษณ์หรือเป็นลวดลาย

นอกจากนี้ ยังมีข้อยกเว้นการไว้ผม ตามหลักความเชื่อของศาสนา หรือการดำเนินกิจกรรมบางอย่าง แต่ต้องให้หัวหน้าสถานศึกษาเป็นผู้อนุญาต

ช่วงท้ายของระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ยังให้อำนาจสถานศึกษาต่างๆ ไปวางระเบียบว่าด้วยทรงผมนักเรียนของตัวเองได้ "แต่ต้องไม่ขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้"

เรื่องราวเกี่ยวกับศีรษะของนักเรียนไทย มีทั้งหมดเท่านี้แหละ โลกเปลี่ยน ระเบียบเปลี่ยน แต่ผู้เกี่ยวข้องบางคนยังเคยชินกับการวัตรปฏิบัติแบบเดิมๆ

Illustration by Kodchakorn Thammachart

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0