ช่วงเวลาของการเป็นเด็กนี่น่าอิจฉาที่สุดแล้วนะ
ช่วงนั้นเราไม่เคยสนใจเลยว่า จะหัวเราะตรงนี้ได้มั้ย
จะร้องไห้โวยวายกลางตลาดได้รึเปล่า
จะออกไปเล่นน้ำฝนได้มั้ย
เราทำเลย เพราะเราไม่ได้สนใจ ว่าใครจะคิดอะไรกับเรา
หรือจริง ๆ ตอนนั้นเราอาจจะไม่ได้มีอยู่ในหัวด้วยซ้ำ
ว่าโลกนี้มันมีการตัดสินกัน จากการทำอะไรบางอย่างแบบนี้
พอโตขึ้นเรื่อย ๆ
เราเลยคิดมากขึ้น ว่าอันนี้ทำได้มั้ย
จะทำแบบนี้ดีรึเปล่า
คนนั้นจะคิดยังไง ถ้าเราตัดสินใจทำอะไรแบบที่กำลังคิด
จริง ๆ การตัดสินใจ เป็นเรื่องปกติของการเป็นคนของเรา
มันก็คือกลไลนึงในการที่จำทำให้เรารู้สึกปลอดภัย
กลไลในการเอาตัวรอด ตัดสินใจว่า ถ้าทำแบบนี้จะดีมั้ย
ถ้าเดินทะเล่อทะล่าออกไปกลางถนนตอนนี้ รถจะชนตายรึเปล่า
ตื่นมาจะสระผมมั้ย
ขึ้นรถไฟฟ้า จะนั่ง หรือจะยืนตรงไหนดี
การตัดสินใจมันเกิดขึ้นอยู่กับเราตลอด
แม้กระทั่งตอนนี้
ที่คุณอาจจะกำลังตัดสินใจว่า ควรจะอ่านต่อไปดีมั้ย
ซึ่งการตัดสินใจอะไรที่เป็นตรรกะในการใช้ชีวิตผมว่ามันก็เป็นเหตุเป็นผลกันนะ
แต่หลาย ๆ ครั้งเราเองที่ไม่กล้าตัดสินใจ เพราะเรากลัวใครสักคนมาตัดสินเรา
นั่นต่างหากที่จะทำให้มันเป็นปัญหาในการใช้ชีวิตของเราเอง
ไม่กล้าใส่เสื้อสีชมพู เพราะกลัวคนอื่นมองว่าเป็นเกย์
ไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าเราฟังเพลงแนวไหน เพราะกลัวว่าเขาจะตัดสินเราตาม Stereotype
อย่างที่สังคมเค้ามอง ๆ กัน
เรื่องแบบนี้ยิ่งโตขึ้น เรายิ่งมีภูมิคุ้มกันมากขึ้น
ช่วงมัธยม ประถม เราอยากได้การยอมรับ
อะไรที่ถ้าตัดสินใจทำไปแล้วคิดว่า รอบๆตัวน่าจะไม่ชอบ
เราก็จะเก็บมันไว้ ไม่กล้าทำ
แต่พอโตขึ้นมาแล้วเราก็จะรับรู้ได้เองว่า
มันไม่ได้สำคัญเลยที่มัวจะสนใจว่าคนอื่นจะมองเรายังไง
จนลืมไปว่า ถ้าไม่ได้ทำในสิ่งที่คิดไว้ตอนนี้
ตัวเราในอนาคตจะตัดสินตัวเองในอดีตว่ายังไง
อะไรที่อยากทำแล้วมันไม่ได้เดือดร้อนใคร
ส่วนใหญ่ผมจะทำเลย
ผมชอบถามตัวเองว่า
พอเรากำลังจะทำอะไรสักอย่าง
แล้วมันจะมีคำถามแว้บเข้ามาว่า
ถ้าแบบนี้ไป เค้าจะมองว่าเราเป็นคนแบบนี้มั้ยนะ
เค้านี้ใคร ?
เค้าที่เราคิดว่าจะมาตัดสินเรานั้น คือใคร ?
ใช่คนที่เรารู้จักมั้ย ใช่คนสำคัญในชีวิตเรารึเปล่า
เค้าที่เราคิดอยู่ในหัว จนไม่กล้าทำอะไร
มันมีตัวตนอยู่จริง ๆ ใช่มั้ย
หรือเราแค่สร้างมันขึ้นมาเอง
คิดแบบนี้แล้วผมจะสนใจกับอะไรแบบนั้นน้อยลง
ยิ่งพอโตขึ้น เราชัดเจนกับตัวเองมากขึ้น
การที่เราจะกลัวคนอื่นมาตัดสิน มันจะน้อยลง
แต่สิ่งที่เราจะมีมากขึ้น
คือการไปตัดสินคนอื่น
หลายครั้งนะครับที่เราเองเนี่ยชอบไปตัดสินคนนั้นคนนี้
คนนั้นพูดมาก คนนี้อารมณ์ดี
คนนั้นดูน่าเชื่อถือ พอพูดถึงชื่อคนนี้แล้วส่ายหัวบอกไม่ไหว
เราตัดสินกันไปทั่ว เท่าที่ประสบการณ์และภูมิหลังของเราจะพาความคิดเราไปได้
ผมว่าตรงนี้มันสำคัญกว่าการที่เราโดนตัดสินอีกนะ
เพราะเองนี่แหละ ที่เอาไม้บรรทัดของตัวเองไปวางที่คนอื่น
โดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่า การที่เขาเป็นเขาจริงๆ ณ ตอนนั้น
เขาต้องผ่านอะไรบ้าง
ผมเคยประชุมในที่ทำงานกับพี่ผู้หญิงคนนึง
คนนี้นี่เรียกว่าตัวโหด ใคร ๆ ก็กลัว
ประชุมทีทุกคนต้องฟัง ฟันที ฉับ ๆ
ทุกคนบอกกันเป็นเสียงเดียวกันว่า คนนี้ของจริง เคี่ยว โหด
แต่ระหว่างที่ประชุมอยู่นั้นโทรศัพท์ของพี่คนนั้นดังขึ้น
แล้วพี่เขาก็รับ
ผมได้ยินเสียงก่อนที่พี่เขาจะเปิดประตูออกไปจากห้องว่า
ว่ายังไง ลูกกกกก
เรียกว่าคนละน้ำเสียงกับท่ีอยู่ในห้องประชุมเลยนะ
ผมแอบมองลอดกระจกออกไปนอกห้อง
ไม่ได้ยินเสียงหรอกนะครับ
แต่หน้าตาและแววตา ดูมีความกังวลอะไรสักอย่าง
เรียกว่าคนละบุคลิกกับเจ้ที่ยืนอยู่กลางห้องเมื่อสักครู่
ไม่เกินสองนาที
พี่เค้ากลับเข้ามา
หน้าตาและน้ำเสียงกลับมาสู่ความโหดแบบเดิม
มันเป็นความรู้สึกที่แปลกดี
บอกไม่ถูกว่าควรจะรู้สึกอย่างไร
เหมือนเราตัดสินเค้าจากจุดที่เรามองเห็นไปแล้วว่าเค้าเป็นคนยังไง
มันก็เลยทำให้ผมคิดต่อไปว่า
เออ บางคนเป็นลูกที่ดีกับพ่อแม่
แต่เป็นเพื่อนที่เลวสำหรับคนอื่น
บางคนเป็นแม่ที่ดี
แต่ไม่ใช่เพื่อนร่วมงาน หรือเจ้านายที่ดี
บางคนเป็นลูกน้องที่ไม่เอาไหน
แต่เป็นพ่อที่เอาใจใส่ลูกอย่างไม่ใครมาเปรียบ
เราเต็มที่กับบางบทบาทที่เป็น
และบกพร่องกับบางบทบทที่ได้รับมอบหมาย
ซึ่งในทุกครั้ง ๆ ที่เราเห็นใครคนหนึ่ง
ในบทบาท หรือบริบทที่เราเห็น
เราก็เอาสิ่งที่เรามี สิ่งที่เราเคยเจอ
ไปตัดสินเค้า เอาป้ายไปติดว่า เขาเป็นคนยังไง
โดยที่เราไม่เคยได้หันให้ครบทุกมุม
จนแน่ใจเสียก่อนว่าเขาเป็นแบบนั้นจริงๆ
ถ้าไปยืนในจุดที่เขายืนอยู่
เราจะตัดสินเขาแบบนั้นมั้ย
ถ้าได้เป็นในสิ่งที่เขากำลังเป็นอยู่
เราจะเข้าใจในสิ่งที่เขาแสดงออกออกมารึเปล่า
ความซับซ้อนในความเป็นมนุษย์ของเรามันเข้าใจยากเหมือนกันนะ
แต่การลองเอาตัวเองเข้าไปยืนจุดเดียวกับเค้า
ว่าแต่ละคนเคยผ่าน เคยเจออะไรมาบ้าง
เขาอาจไม่ได้เติบโตมาในแบบที่เราเป็น
ความหลากหลายในการเป็นคนมันมากมายจนที่
เสี้ยววินาทีที่พบ มันจบว่าเค้าเป็นคนแบบไหนไม่ได้นะ
ชะลอการตัดสินใจของตัวเอง
ก่อนที่จะตีตราว่าสุดท้ายแล้วเค้าเป็นคนยังไง
ชะลอแบบที่ตอนที่ตัวเองกำลังจะตัดสินใจทำบางอย่าง
แล้วคิดว่าคนอื่นจะคิดกับเรายังไง
ไม่ต้องกลัวการถูกคนอื่นตัดสิน
แต่ระวังตัวเองในการที่จะไปตัดสินใครสักคน
คนที่เราไม่ได้รู้จักเขาจริง ๆ จะดีกว่า
ติดตามบทความใหม่ ๆ จาก เพจบันทึกนึกขึ้นได้ บน LINE TODAY ทุกวันศุกร์