โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

ถ้าได้ของปลอมก็เอามาคืน! 'ท็อป'ลั่นไม่อยากยุ่งกับ'ไพลิน'

เดลินิวส์

อัพเดต 12 ธ.ค. 2562 เวลา 06.09 น. • เผยแพร่ 12 ธ.ค. 2562 เวลา 06.04 น. • Dailynews
ถ้าได้ของปลอมก็เอามาคืน! 'ท็อป'ลั่นไม่อยากยุ่งกับ'ไพลิน'
“ท็อป-ณัฐเศรษฐ์” ตอบแซ่บทุกประเด็น บอกไม่อยากยุ่งกับ “ไพลิน” อีกแล้ว เลิกกันจริงตั้งแต่ช่วงวันเกิด ด้านปมให้แต่ของปลอม บอกถ้าปลอมแล้วถ่ายโชว์ทำไม เอามาคืนได้นะ เพราะที่เอาไปก็เยอะอยู่

กลายเป็นดราม่าร้อนที่ชาวเน็ตสนใจอย่างมาก หลังมีเพจดังในโลกออนไลน์ได้ออกมาเผยว่ามีไฮโซหนุ่มได้ทิ้งฝ่ายหญิงเพราะตนจะซื้อรถให้คุณพ่อ แต่ถูกแฟนสาวเบรกว่าทำไมไม่ซื้อให้หนูบ้าง จากนั้นพอมีข่าวออกไป ก็มีชาวเน็ตโยงว่าเป็นเรื่องราวของคู่ไฮโซหนุ่ม ท็อป-ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี ที่ได้เลิกรากับนางแบบสาว ไพลิน โอลเซ่น แล้วจากนั้นไม่นานสาวไพลินก็ได้ออกมาโพสต์อินสตาแกรมเป็นปริศนาคล้ายต้องการแฉอีกฝ่าย ด้วยข้อความเด็ดว่าที่ผ่านมาเหมือนตกนรกทั้งเป็น ของที่ซื้อให้ก็มีแต่ของปลอมทุกอย่าง จนทำให้เกิดการวิจารณ์ถึงหนุ่มท็อปอย่างหลากหลาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดหนุ่มท็อปได้ไปร่วมงานอีเว้นท์งานหนึ่ง หลังจบงานเจ้าตัวก็ได้อัพเดทถึงเรื่องนี้ว่า “ความสัมพันธ์กับไพลินก็เลิกกันมาตั้งแต่เดือนกันยายนแล้วช่วงวันเกิดผม สาเหตุเพราะผมรู้สึกว่ามันไปต่อไม่ได้แล้ว แต่เรื่องที่โยงว่าเลิกเพราะผมไม่ซื้อรถให้เขา ถ้าคนที่รู้ก็จะรู้ว่าเป็นยังไง แต่ผมเป็นผู้ชายไม่อยากจะพูดสาเหตุที่มาที่ไป เอาเป็นว่ามันก็เป็นเรื่องที่เสียใจทั้งคู่นะที่มันไปต่อไม่ได้ เราทั้งสองคนก็ตั้งใจทำให้มันดีที่สุด แต่มันก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกว่าเราคงจะจูนกันต่อไปไม่ได้แล้วจริงๆ ก่อนหน้านี้เราก็พยายามปรับจูนกัน ครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกันมันค่อนข้างชัดเจนมากว่าเราคงจะมองไม่เหมือนกันแล้ว ซึ่งที่เลิกกันนั้นเกี่ยวกับพ่อผมไหมคือมันมีหลายเหตุการณ์ หลายปัจจัยที่ทำให้เราเห็นหลายๆอย่างมันชัดเจนขึ้น”

“ฝั่งที่ถอยที่ออกมาน่าจะเป็นผมนะ ผมชัดเจนกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมเป็นผู้ใหญ่มากกว่าอยู่แล้ว และไม่อยากจะเสียเวลาทั้งเขาและก็เรา จริงๆผมไม่ค่อยอยากจะพูดมาก เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่ผมเป็นผู้ชายก็ไม่ควรจะพูดเนอะมันเสียความรู้สึกทั้งคู่อยู่แล้ว เหตุการณ์มันก็เกิดมาสักพักแล้วนะหลายเดือนเหมือนกัน ณ ตอนนี้ผมว่าไม่ว่าจะเป็นตัวผมเองหรือครอบครัวผม คงไม่อยากจะมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้นกับผู้หญิงคนนี้แล้ว อยากจะแยกให้ชัดเจนและผมก็คงไม่อยากจะพูดถึงเขาอีกต่อไป"

ท็อป กล่าวต่อว่า “ส่วนข้อความที่เขาโพสต์ไอจีผมเห็นแล้วครับ สำหรับผมก็มีหลักฐานทุกอย่างหมดอยู่แล้ว อย่างที่บอกไปเราเป็นผู้ชายอย่าให้พูดอะไรไปมากกว่านี้เลย ก็อยากให้เรื่องมันจบไปแล้ว เรื่องของปลอม(หัวเราะ) ถ้าคนรู้จักผมและโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กคงจะรู้ว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว อีกอย่างผมทำธุรกิจขนาดนี้ ให้กับแบรนด์ระดับขนาดนี้ การใช้ของพวกนี้มันเป็นไปไม่ได้แล้วถ้าพูดตามตรงนะ ถ้าของที่เราให้ไปถ้ามันไม่จริงจะใส่โชว์ถ่ายทำไม มันก็ไม่น่าภูมิใจไหม เอามาคืนก็ได้นะมีเยอะมากที่เอาไป(ยิ้ม)ผมก็ค่อนข้างเสียใจมาก เพราะเราเข้าใจว่าเวลาที่ผ่านมามันเป็นเวลาที่ดีกันทั้งคู่ ถึงแม้จะเลิกรากันไป เราต่างคนต่างโตก็พอรู้แล้วว่าเหตุผลมันคืออะไร มันไม่จำเป็นต้องทำอะไรกันแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องทำร้ายใคร มันผ่านมาแล้ว ต่างคนก็ต่างเริ่มใหม่แล้ว แต่ก็เห็นชัดเจนนะว่าเขาก็ปิดหนีไปแล้ว เขาทำเสร็จก็หนีไปเลยเพราะแน่นอนมันมีเรื่องกฎหมายที่เราสามารถจะคุยได้ แต่ผมไม่อยากทำแบบนั้น หลังจากเขาโพสต์ผมก็ไม่ได้ติดต่อไป ผมไม่อยากจะคุยกับเขาตั้งแต่วันนั้นที่เราแยกกันแล้วเพราะมันชัดเจนมากแล้ว"

“ถามว่าจบกันไม่ดีไหมมันไม่ถึงขั้นนั้นนะ แต่กับสิ่งที่มันเกิดขึ้น ผมค่อนข้างไม่อยากอะไรกับคนแบบนี้ ผมว่าเรากับเขามันอยู่คนละที่กันแล้ว ผมว่าผมอยากอยู่เงียบๆนะ ไม่อยากจะพูด แต่นักข่าวถามมาผมว่าผมชัดเจนมากมาตลอด ผมเป็นคนจริงใจกับความรู้สึกกับทุกๆอย่างกับทุกๆคนที่อยู่รอบข้างผมฉะนั้นเรื่องที่มันเกิดขึ้นแบบนี้ผมก็ค่อนข้างผิดหวังและเสียใจพอสมควร แต่เรื่องที่เขาอาจจะคิดว่าเราเป็นคนปล่อยข่าวเขาอาจจะมองแบบนั้นก็ได้นะ ผมคิดว่าเขาคงจะเสียใจ ผมก็ขอโทษกับข่าวที่มันหลุดออกไป แต่ในความเป็นจริงยังไม่มีการคอนเฟิร์มใดๆทั้งสิ้นเลยว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าและเขาก็ไม่ได้พูดว่าเป็นชื่อใคร ผมก็อยู่เงียบๆ ของผมไป อีกอย่างข่าวที่ออกไปมันก็ไม่ได้ดูดีกับทางผมเหมือนกัน”

“สถานะหัวใจผมตอนนี้ก็โสดนะเรียกว่าเข็ดดีกว่า (ยิ้ม) เข็ดมาก แต่ผมไม่ได้ปิดใจ แต่ค่อนข้างเข็ดเหมือนกัน ไปไม่ค่อยเป็น ไม่รู้ว่าจะไปแนวไหนเพราะผมก็ตั้งใจมากๆ กับรักครั้งนี้ เราตั้งใจจริงๆ ผมเชื่อว่าคนที่อยู่รอบข้างผมก็คงจะรู้ และผมก็พร้อมที่จะมีครอบครัวแล้ว กับการที่ผมได้เจอเหตุการณ์แบบนี้มันทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างเหมือนกัน ว่ามันยังมีความคิดที่แตกต่าง การกระทำหรืออะไรแต่ละเรื่องที่คงมีคนคิดไม่เหมือนเรา ตอนนี้ก็รู้แล้วว่ามันมีแบบนี้ ก็เรียนรู้แล้วครับ เรียนรู้แบบรู้สึกจริงๆแล้วว่าอะไรมันก็เกิดขึ้นได้"

ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม @topnathasedh

*ข่าวที่เกี่ยวข้อง *

"ท็อป"ยังชิล"ไพลิน"แฉเหมือนตกนรกได้แต่ของปลอม

ซี๊ด!'ไพลิน' แฉยับคบ 'ท็อป' ที่ผ่านมาได้แต่ของปลอม

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0