ไม่น่าเชื่อว่าจะกลับมาอีกรอบสำหรับโรคระบาด COVID รอบที่ 2 ในประเทศไทยที่ดูว่าคล้ายจะสงบลงแล้ว แต่กลับมีหลุดมาจนได้ ในจังหวัดระยองและกรุงเทพ
ประเด็นคือ ถ้ากลับมาระบาด ในมุมนักลงทุนแล้วควรจะกลับกลยุทธ์กันอย่างไรดี ?
บล.ไทยพาณิชย์ แนะนำว่าถ้ามีการปิดเมืองจริงๆจะทำให้ แนวโน้มอัตราการผิดนัดชำระหนี้สูงขึ้นของธุรกิจขนาดเล็กและกลาง ทางบทวิจัยได้ปรับเป้าใหม่ของ SET Index มาอยู่ที่ 1,428 จุด
รวมถึงปรับลดประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียน(EPS) ลงเหลือ 62.57 บาท/หุ้น หรือ ลดลง 27% จากปีก่อนที่อยู่ 86.19 บาท/หุ้น และลดลงจากไตรมาส 2/63 ที่ 68 บาท/หุ้น หรือ ลดลง 22% จากแรงกดดันโควิด-19 จะกระทบกำไรบริษัทจดทะเบียนในปีนี้ค่อนข้างมาก เพราะเศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าคาด
ประเด็นที่ต้องจับตา คือ จะปิดเมืองอีกไหม และการปรับคณะรัฐมนตรี ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่
ปรับกลยุทธ์มาเป็นหุ้นกลุ่มอาหาร ค้าปลีก ขนส่ง และ ไอซีที ปรับพอร์ตมาเป็นแบบ Defensive มากขึ้น
บล. เอเชียพลัส แนะนำให้เลือกหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง และ Outperform ตลาด โดยใช้ข้อมุลจาก COVID-19 ช่วงแรกมาเป็นเกณฑ์ในการคัดเลือก แบ่งได้ดังนี้
หุ้นที่ได้รับประโยชน์จาก COVID-19 : STA และ STGT
กลุ่มสินค้าจำเป็นและสื่อสาร : CPF CPALL ADVANC INTCUH
บล. เคทีบี มองว่า ตอนนี้นักลงทุนให้น้ำหนักกับข่าวอยู่ 2 ประเด็น คือ โควิดจะกลับมาอีกไหม และเรื่องของการปรับคณะรัฐมนตรียังไม่มีความชัดเจน แนะนำว่าควรรอให้ตลาดฟื้น หรือเน้นเล่นเก็งกำไรระยะสั้นๆไปก่อน โดยหลีกเลี่ยงหุ้นท่องเที่ยว น้ำมัน และเก็งกำไรหุ้นที่ได้รับผลบวกต่อ COVID แทน เช่น MEGA และ CPF
โดยภาพรวมแล้วสิ่งที่ค่อนข้างน่ากังวล คงจะเป็นเรื่อง COVID จะกลับมารอบ 2 ได้อีกหรือไม่ ถ้ากลับมาได้อีกเศรษฐกิจไทยอาจจะแย่ไปจนถึงปีหน้า แต่ถ้าสามารถควบคุมได้ เศรษฐกิจอาจจะกลับมาฟื้้นได้ในครึ่งปีหลัง ทั้งนี้ยังมีเรื่องของการเมืองและการปรับ ครม. ที่ยังไม่ชัดเจน ทำให้บทวิเคราะห์ส่วนใหญ่เน้นไปเรื่องของการ "เก็งกำไร" รอบสั้นๆ ไปก่อน
-----------------------------
ขอบคุณแหล่งข้อมูล
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เคทีบี
stock2morrow
ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่
