เป็นคำถามที่ง่ายๆ แต่เมื่อเราสัมผัสหรือโดนด้วยตัวเอง เราอาจถึงขั้นแก้ไม่ออกก็ได้ งั้นเรามาดูไอเดียกันครับ
1. รอ 2. ซื้อเพิ่ม 3. ขายที่เป็นกำไร 4. ขายที่ขาดทุน 5. ออกไปหาอะไรกิน 6. หาหนังสือมาอ่าน 7. นัดเพื่อนไปเที่ยว 8. ดูหนังสักเรื่อง 9. ไปวัดดีกว่า 10. นั่งสมาธิดีมั้ย 11. เลิกแล้วไปทำอาชีพอื่นดีกว่า 12. หาหุ้นเด็ดตัวใหม่ 13. ไปเที่ยวผับดีกว่า 14. ไปยิมดีมะ 15. หาร้านกาแฟนั่งชิล 16. มันยังมีอะไรอีกตั้งเยอะให้ออกไปทำ
คำตอบมันมีเยอะหลากหลายมาก…ซึ่งแต่ละคนก็จะมีทางเลือกและตอบได้ไม่เหมือนกัน เพราะแต่ละคนมีความพร้อมแตกต่างกัน แต่สิ่งที่หนีไม่ได้คือหุ้นมันยังไม่ขึ้นในวันนี้…555หากเป็นผมที่ต้องทำกำไรให้ได้จากตลาด เพราะนี่คืออาชีพที่สร้างรายได้หลักให้ผม ผมจะตอบอย่างไร
ผมจะตอบว่า…ก่อนมาเทรดผมออกแบบแผนกลยุทธ์การเทรดต่อสถานะการณ์ต่างๆไว้อย่างไร ซึ่งประกอบไปด้วย
1. จุดเข้า จุดออก
2. เงินทุนหน้าตักที่ใช้ 100% และแบ่งเป็นกระสุนกี่นัด นัดละกี %
3. สภาวะจิตใจ
ใน 3 ข้อมีรายละเอียดตามนี้ครับ
1. จุดเข้า จุดออก ต้องเข้าใจก่อนว่า จุดเข้าเราเลือกได้เพราะราคาเคลื่อนไปมา แล้วเราก็กดออเดอร์เข้าไป แปลว่าเราเห็นราคาหรือกราฟหรือข้อมูลอื่นๆ ก่อนเข้า แต่จุดออกนั้นเราทำได้แค่รอดูผลลัพธ์ของราคาที่แสดงออกมาหลังจากเข้าออเดอร์ ดังนั้นจุดออกมา 2 แบบคือ
ออกเป็น+ กับออกเป็น- ทีนี้ก็อยู่ที่ความแม่นยำของจุดเข้าแล้วละครับ หรือถ้าไม่แม่นก็ต้องสู้ด้วยเวลา คือ จากออเดอร์ลบอยู่ ก็ต้องรอจนกว่าราคาจะกลับมาเป็นบวกแล้วค่อยปิด หรือจะยอมคัทยอมขาดทุนบางส่วนออกไปก่อนที่เรียกว่า CutLoss ซึ่งการคัทลอสต้องใช้คู่กันกับข้อที่ 2
2. เงินทุนหน้าตักที่ใช้ คือ เราเอาเงินมาเทรดนั้นจำนวนทั้งหมดให้นับเป็น % เอาครับ คือ 100% กรณีเพื่อนๆแม่นมากแบบไม่แพ้เลยแบบนี้ไม่ใช่ปัญหาครับในการเทรด…เทรดไงก็ปิดเป็นบวก แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้ดังนั้นต้องมีนัดหรือออเดอร์ที่พลาดได้ ดังนั้นจึงต้องแบ่งพอร์ต 100% ออกเป็นกระสุนครับ
ทีนี้ต้องมาดูระดับความแม่น ตรงนี้ต้องลองไปยิงหรือเทรดมาก่อนจะประเมินตัวเองได้ เช่น ผม 3 นัดครับ งั้นก็เผื่อพลาดรวมคือ 4 นัด ดังนั้น 100% ผมแบ่งนัดละ 25% ครับ แล้วยิงทีละนัด ที่เหลือใช้ประสบการณ์การเทรดที่ผ่านมาหลายปีตั้งแต่ปี 2012 ก็จะประเมินราคากราฟได้ว่าควรเข้าตรงไหนออกตรงไหน
ตรงนี้อยู่ที่ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของแต่ละคนครับ แต่ก็มีนะครับที่ผมแบ่ง 100% แยกออกเป็น 3 ส่วนก่อนคือ 33.33% แล้วเอาไปเทรดทีละ 33.33%และหารเป็น4นัด เห็นมั้ยครับมันไม่มีตายตัว มันขึ้นกับการไปดูหน้างานอารมณ์ตลาดวันนี้ ทรงกราฟ แล้วก็ประสบการณ์ที่เราเห็นกราฟมา
3. สภาวะจิตใจ ข้อนี้จริงๆแล้วจะใช้จริงและรับรู้สัมผัสจริงได้คือเราต้องมีข้อ 1 กับ 2 มาแล้ว และเมื่อลงสนามจริงสภาวะจิตใจเราจะแสดงขึ้นมาเองว่าทำตามแผนกลยุทธ์การเทรดที่เราออกแบบมาได้หรือไม่ เราเท่านั้นที่รับรู้เรื่องนี้ได้
สำหรับผมใช้การนั่งสมาธิและลงสนามจริง…ผ่านความผันผวนและแรงกดดันมาหลากหลาย.ของทั้งจากราคากราฟผู้คนรอบข้าง…จึงเทรดบนสภาวะนิ่งๆ สงบๆได้ครับ มองกราฟเป็นเรื่องธรรมชาติของมันที่มันมีราคาขึ้น ราคาลง ราคานิ่งๆ ผมไปบังคับมันไม่ได้ แต่ผมฝึกควบคุมจิตใจตัวเองได้ คุมเงินทุนของตัวเองได้ คุมจังหวะยิงออเดอร์ของตัวเองได้ ผมโฟกัสในส่วนที่ผมจัดการได้
เมื่อเราเข้าใจทั้ง 3 ข้อเราก็จะมีโครงสร้างของแผนกลยุทธ์การเทรดของเราครับ ที่เหลือคือการลงสนามเพื่อเจอของจริง แล้วไปดูผลลัพธ์ที่พอร์ตครับ เพียงเท่านี้เพื่อนๆก็จะตอบตัวเองได้แล้วครับว่า “ถ้าวันนี้หุ้นไม่ขึ้นให้ทำไง”
stock2morrow
ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่
