"ความคิดขัดแย้งพื้นที่สีแดงชายแดนด้ามขวาน พี่น้องเราเดือดร้อนมานาน
ด้วยอุดมการณ์แยกดินแบ่งฟ้า ปักษ์ใต้บ้านเราบัดนี้เงียบเหงาไร้เสียงบินหลา"
"ภาพความขัดแย้งระแวงสายตา แล้วทำไมไม่หันหน้ามา พูดคุยปรึกษาปัญหาแก้ไข"
นั่นคือเนื้อหาตอนหนึ่ง ของบทเพลง "ลมหายใจปลายด้ามขวาน" เพลงปลุกใจรักชาติ ที่ "หนังน้องเดียว" ลูกทุ่งวัฒนธรรม นายหนังตะลุงตาบอดชื่อดังภาคใต้ ได้ขับร้องไว้ และนำไปสู่การได้รับรางวัลจาก กอ.รมน.
วันนี้การจุดความขัดแย้งระหว่าง "หนังเดียว" กับ พระวัดเนินพิจิตร อ.นาหม่อม จ.สงขลา และลามไปถึงคณะสงฆ์สงขลา ถือว่ากำลังถูกพูดถึงในสังคมอย่างหนัก จากพื้นที่ภาคใต้ และไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะโลกโชเชียล ที่เสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมของ "หนังเดียว" จนถึงขั้นมีบางคนเรียกขานว่า "นายหนังอหังกา"
"หนังเดียว" ที่โด่งดังมาจากความสามารถ แม้เขามีปมด้อยจากการเป็นนายหนังตาบอด ที่บรรดาศิลปิน ทั้งในภาคใต้และระดับชาติ ต่างยกย่องและให้การยอมรับในความสามารถของนายหนังตาบอด ผู้นี้ จนทำให้ได้รับการตอบรับจากประชาชน ในการติดต่อไปแสดงจนคิวยาวเยียด
การออกมาเปิดศึก กับพระสงฆ์ครั้งนี้ เปรียบเสมือนเป็นการ "ทุบหม้อข้าวตนเอง" ที่เพียงเพราะ ไม่พอใจที่ พระท่านพูดว่า หนังเดียวราคาแพงจ้างมาเล่นทำไม? จนทำให้หนังเดียว ระเบิดอารมณ์ เล่นหนังสวมบท…สวดยับพระสงฆ์ ถึงขั้นเรียก "ไอ้โล้น" ไม่เพียงแค่นั้น ยังกล้าที่จะสาบแช่งพระให้ตาย รวมทั้งท้าทายพระตั้งโต๊ะรับบริจาคเงินแข่งกัน
ขณะที่ฝ่าย คณะสงฆ์ ขอบิณฑบาตสังคมให้ยุติความขัดแย้งเรื่องนี้ เพื่อรักษาทั้งพระและรักษาทั้งหนังน้องเดียวเอาไว้ เพราะกว่าที่จะเกิดพระเม็ดงามขึ้นสักรูปและนายหนังตะลุงที่เก่งในภาคใต้นั้นเป็นเรื่องยาก ที่สำคัญทั้งศิลปินและศาสนาก็เป็นเนื้อเดียวกันเรียกว่าจริยศาสตร์ที่นำเสนอเรื่องของคุณธรรมและพระพุทธศาสนาซึ่งต้องอยู่คู่กันไป
หากมองในมุมของ ศิลปินพื้นบ้านที่โด่งดังมาก่อน ก็คงอดไม่ได้ ที่จะกล่าวตำหนิ หนังเดียว ถึงก้าวร้าว พฤติกรรมเช่นนี้ ถือว่าไม่ใช่วิสัยของศิลปิน ในฐานะศิลปินด้วยกันก็ยังรับไม่ได้ และที่สำคัญหนังตะลุงก็จะไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร มุกตลกที่เกี่ยวกับพระหรือศาสานาก็มีได้บ้าง แต่ไม่ใช่เป็นการย้ำจน ประชาชนมีความรู้สึกที่ไม่ดี
ส่วนเรื่องนี้ท้ายสุด หนังเดียว จะสำนึกผิดหรือไม่? หรือ ความดัง ความรวย จะทำให้เขาหลงตัว จนนำไปสู่การทำลายชื่อเสียงของตัวเอง
เพราะเนื้อหาในบทเพลง"วอนแฟนเพลง"ที่หนังเดียวขับร้องไว้ ระบุชัดว่า…. สิบนิ้ว บรรจง กราบลงตรงหน้า ขอบคุณที่มีเมตตา ด้วยความรักยิ่งจริงใจ ได้ยินเสียงท่าน สุขสรรค์ สำราญสดใส ไม่เห็นแต่สัมผัสได้ หัวใจมันสื่อถึงกัน
มือ..ทั้งสองสมองน้อยๆเลือดศิลปินเกินร้อยจะคอยสร้างสรรค์งานใหม่ ถ้ามีคุณๆคอยให้ไออุ่นแรงใจขอทุ่มทุกลมหายใจมอบกายถวายชีวัน
สิบนิ้ว บรรจง กราบลงตรงนี้ ขอบคุณน้ำใจไมตรี ให้อยู่อย่างนี้นานๆ หากแม้นน้องพี่ ให้ความปราณีสงสาร ศิลปินสายตาพิการ จะสร้างผลงานเพื่อแฟน
