โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

'ตูน' พร้อมวิ่งภาคอีสาน หวังเกิดความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอีกครั้ง

MATICHON ONLINE

อัพเดต 26 พ.ค. 2562 เวลา 07.21 น. • เผยแพร่ 26 พ.ค. 2562 เวลา 07.20 น.
IMG_434

หลังจากที่ ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย นักร้องชื่อดังผู้เคยสร้างสถิติ ในโครงการก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ” วิ่ง 2,100 กิโลเมตร จากเบตงถึงแม่สาย ได้เงินบริจาคมาพันกว่าล้าน มาวันนี้(26 พ.ค.) ตูน อาทิวราห์ เตรียมออกวิ่งอีกครั้งโดยประเดิมสนามในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เส้นทางหนองคาย-ขอนแก่น ระหว่างวันที่ 15-16 มิ.ย. ระยะทาง 180 กิโลเมตร โดยตูน อาทิวราห์ เผยว่า  ในปีนี้ตนก็อยากสานโครงการต่อ แต่จะเป็นการวิ่งผลัด กับคนอื่นๆ

“แนวความคิดคือ อยากส่งต่อแรงบันดาลใจ คือ เวลาที่คนได้เห็นพวกเราที่เป็นศิลปินลุกขึ้นมาออกกำลังกายแม้จะไม่ได้มีเวลาเยอะ แต่เราก็ยังหาเวลามาดูแลสุขภาพกันได้ นักแสดง ศิลปินหลายๆท่านที่มาร่วมก็มีทั้งคนที่ไม่เคยออกกำลังกายเลย แล้วลุกขึ้นมาออกกำลังกาย หรือ คนที่ออกกำลังกาย วิ่งเก่งอยู่แล้ว เราอยากให้พวกเราเป็นแรงบันดาลใจให้คนได้ไม่มากก็น้อย”

“ส่วนยอดเงินบริจาคเราก็รู้สึกว่ามันก็ยังจำเป็นอยู่เพราะโรงพยาบาลประจำชุมชนบางที่ก็ยังไม่มีแม้แต่เครื่องมือที่มีมาตรฐานที่สมควรที่จะมี ก็อยากให้พวกเราร่วมด้วยช่วยกันตามกำลัง อยากเผยแพร่เรื่องของการรวมกัน หมายถึง การรวมกันของเงินจำนวนเล็กๆ ที่ผมพยายามสื่อสารมาตลอดในช่วงทำก้าวคนละก้าวครั้งก่อน เงินจำนวนเล็กๆที่คุณแาจจะไม่คิดว่าจพช่วยชีวิตใครได้ แต่พอมารวมกันจาก 70 ล้านคนแล้ว สามารถช่วยเหลือคนได้มากมาย มันเกิดควาทเปลี่ยนแปลงได้จริงๆ อย่างคราวที่แล้วเราก็ทำยอดเงินได้เกินคาด ครั้งนี้เราก็หวังว่าจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ”

สำหรับปีนี้จะวิ่งทั้ง 5 ภาค ภาคละ 2 วัน กำหนดระยะเวลาและเส้นทางขึ้นมาท้าทายพวกตรกันเอง สำหรับคนเป็นนักวิ่งอยู่แล้วก็คงไม่ยาก สำหรับคนที่เป็นนักแสดงหรือคนทั่วไปเราก็จะช่วยๆกันวิ่งไม้ผลัด ว่าเราจะทำได้ไหมใน 48 ชั่วโมง อย่างสนามแรก หนองคาย-ขอนแก่น 187 กิโลเมตร และใน 10 กิโลเมตรสุดท้าย เราอยากให้เกิดภาพของคนที่มารวมกันวิ่งเข้าเส้นชัย คือ เปิดโอกาสให้ประชาชนที่อยากวิ่งเข้าเส้นชัยพร้อมพวกเรามารวมตัวกันในเย็นวันอาทิตย์ที่ 16 มิ.ย.

“และเราจะเก็บสถิติคนที่มาวิ่งมากที่สุดในภาคอีสานด้วยครับ
ตอนนี้ผมมองว่าการแก้ปัญหาด้านสาธารณสุขมันต้องแก้ที่ต้นเหตุ เราเอาเงินไปถมเท่าไหร่ก็ไม่พอดังนั้นเราหันมาดูแลใส่ใจสุขภาพ เพื่อเป็นการป้องกันตั้งแต่ต้นทางจะดีกว่าไปแก้ปัญหาปลายทาง”

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0