เอเจนซีส์ - รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกี ระบุในวันจันทร์ (22 ก.ค.) ว่าตุรกีจะตอบโต้การข่มขู่คุกคามที่ไม่อาจยอมรับได้ กรณีที่อเมริกาจะคว่ำบาตรตุรกีเพราะซื้อระบบป้องกันขีปนาวุธ S-400 ของรัสเซีย และเขาคิดว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ คงอยากจะเลี่ยงมาตรการเหล่านั้น
ตุรกีเริ่มได้รับการส่งมอบระบบขีปนาวุธจากภาคพื้นสู่อากาศ S-400 เมื่อต้นเดือนนี้ ทำให้สหรัฐฯ เริ่มถอนตุรกีออกจากโครงการ F-35
"หากสหรัฐอเมริกาแสดงท่าทีที่เป็นปฏิปักษ์ต่อเรา เราจะใช้มาตรการตอบโต้ตามที่เราได้บอกไป นี่ไม่ใช่คำขู่หรือคุยข่มเล่นๆ" เมฟลุต คาวูโซกลู รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกี ระบุในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ TGRT Haber
"เราไม่ใช่ประเทศที่จะก้มหัวให้กับผู้ที่แสดงความเกลียดชังต่อตุรกี” เขากล่าว พร้อมระบุว่าเขาไม่ได้คาดหวังว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะดำเนินการดังกล่าว
"ทรัมป์ไม่ต้องการที่จะคว่ำบาตรตุรกี และเขามักจะบอกว่าคณะบริหารของเขาและคณะบริหารชุดก่อนของสหรัฐฯ ต้องรับผิดชอบที่ทำให้ตุรกีที่ไม่สามารถซื้อระบบขีปนาวุธ Patriot นี่เป็นเรื่องจริง" เขากล่าว
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วสหรัฐอเมริกาประกาศว่าจะเริ่มกระบวนการถอดตุรกีออกจากโครงการเครื่องบิน F-35 ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ทันสมัยที่สุดในคลังแสงของสหรัฐอเมริกา ที่นาโต้และประเทศพันธมิตรใช้
ตุรกเป็นเช่นเดียวกับพันธมิตรรายอื่นในโครงการ F-35 ที่เป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานการผลิตสำหรับเครื่องบินไอพ่นไฮเทค โดยผลิตชิ้นส่วนกว่า 900 ชิ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐบอกว่าจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 500 - 600 ล้านดอลลาร์ สำหรับย้ายการผลิต F-35 จากตุรกี
สำนักข่าว TASS อ้างว่า เซอร์เก เคเมซอฟ บอสใหญ่บริษัท Rostec ของรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียและตุรกีกำลังเจรจากันถึงความเป็นไปได้ในการร่วมกันผลิตส่วนประกอบบางส่วนของระบบป้องกันขีปนาวุธ S-400 ในตุรกี