โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ตื่นแล้ว!! อช.แก่งกระจาน เตรียมแจ้งกรมอุทยานฯขอเคลื่อนย้าย”ไอ้ด้วน”

77kaoded

เผยแพร่ 19 ก.ย 2562 เวลา 15.05 น. • 77 ข่าวเด็ด
ตื่นแล้ว!! อช.แก่งกระจาน เตรียมแจ้งกรมอุทยานฯขอเคลื่อนย้าย”ไอ้ด้วน”

 

นายอำเภอหัวหิน ลงพื้นที่เยียวยาจิตใจชาวบ้าน 4 ราย ถูกช้างป่าพังร้าน-บ้านเสียหาย สัปดาห์หน้าเรียกประชุม คณะกรรมการแก้ไขปัญหาช้างป่า อ.หัวหิน เพื่อหามาตรการแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม ขณะที่นายอำเภอหัวหิน กล่าวว่าวันนี้ผมโทรศัพท์ถึงหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน  ได้รับแจ้งว่าเตรียมจะทำหนังสือเพื่อแจ้งไปยัง สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่3 เพชรบุรี และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้รับทราบถึงปัญหาล่าสุด เพื่อขอเคลื่อนย้ายช้างป่า เจ้าบุญมี หรือ ไอ้ด้วน

วันที่ 19 กันยายน 2562 นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุวิทย์ มณีวงษ์ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจ กองกำกับการ 1 ตชด.ค่ายนเรศวร , นายกิตติชัย ศรีทองช่วย ปลัดอำเภอหัวหิน ,นางสุนันทา พิมพ์ไทย นายก อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน,กิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน และหน่วยงานราชการในพื้นที่ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ ลงพื้นที่ตรวจสอบและประเมินความเสียหายพร้อมช่วยเหลือเยียวยา ให้กับผู้ได้รับความเดือนร้อนปัญหาช้างป่าที่ ออกมาหากินและทำลายข้าวของที่บริเวณร้านค้าสะดวกซื้อของ นางฐาณิตา พะยอม  หมู่ 1 ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ที่ถูกช้างป่าละอูทำลายร้านค้าพังเสียหาย เมื่อกลางดึกวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนประชาชนรายอื่น ที่ถูกช้างป่าพังบ้านเรือนจนเสียหายและทำลายทรัพย์สิน รวมทั้งหมด 4 ราย ใน ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอหัวหิน กล่าวว่า หลังได้รับรายงานวันนี้ได้ลงพื้นที่ไปรับฟังปัญหาจากชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ได้ช่วยเหลือเยียวยาด้านจิตใจเป็นหลักก่อน และหลังจากนี้จะต้องมีมาตรการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือเยียวยาชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบที่เป็นรูปธรรม เบื้องต้นตนเองได้โทรศัพท์พูดคุยและหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกับ นายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้รับข้อมูลว่า เตรียมจะทำหนังสือเพื่อแจ้งไปยัง สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่3 เพชรบุรี และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้รับทราบถึงปัญหาล่าสุด เพื่อขอเคลื่อนย้ายเจ้าบุญมี หรือ ไอ้ด้วน ที่ชาวบ้านเรียก ซึ่งเป็นช้างป่าเกเร ออกไปยังพื้นที่ป่าลึกห่างชุมชนที่มีความเหมาะสมมากกว่าในปัจจุบัน

ในขณะเดียวกันทาง อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ และ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้จัดชุดเฝ้าระวังขับไล่ช้างป่าบริเวณหน้าซุ้มทางเข้าหมู่บ้านห้วยสัตว์ใหญ่ จากช่วงเย็นถึงเที่ยงคืนปรับเป็นช่วงเย็นถึงเช้าแล้วขณะนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ช้างป่าเข้าไปในหมู่บ้านสร้างความเสียหายให้กับชาวบ้าน

ทั้งนี้ได้ให้ อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ จ่ายเงินซื้ออุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านให้บ้านเรือนประชาชนก่อนเบื้องต้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ ตชด.ค่ายนเรศวร มาช่วยซ่อมแซมบ้านให้ตั้งแต่วันแรกแล้ว โอกาสนี้ยังได้งมอบชุดธารน้ำใจจากกิ่งกาชาด อ.หัวหิน ให้กับราษฎรที่เดือดร้อนด้วย

อย่างไรก็ตามในสัปดาห์หน้า จะเรียกประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาช้างป่า อ.หัวหิน เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่าละอู

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ไอ้ด้วน หรือบุญมี หลังจากหายไปหากินในพื้นที่อื่นมารานเกือบ 1 เดือน แต่เมื่อกลับมาเข้ามาสร้างความเดือดร้อน ให้กับชาวบ้านในพื้นที่อย่างต่อเนื่องในช่วงกลางดึกหลายคืนที่ผ่านมา จนล่าสุดบุกพังร้านคขายของชำได้รับความเสียหายอย่างหนัก  ทำให้เจ้าของร้านอยากให้มีการเคลื่อนย้าย ไอ้ด้วน ออกจากนอกพื้นที่เนื่องจากเกิดความหวาดกลัว

พ.ต.ท.สุวิทย์ มณีวงษ์ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจ กองกำกับการ 1 ตชด.ค่ายนเรศวร  ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการแก้ไขปัญหาช้างป่า อ.หัวหิน   กล่าวว่าเคยพูดในที่ประชุมเมื่อการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาช้างป่ามาแล้ว เมื่อเดือนที่ผ่านมาที่ห้องประชุม อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ถึงปัญหาช้างป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน  บางส่วนอาศัยหากินอยู่ในพื้นที่ป่าละอู ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ทั้งที่เป็นโขลง และที่ออกหากินแบบตัวเดียว ซึ่งสร้างความเสียหายให้ชาวสวนทุเรียนป่าละอูหลายราย รวมทั้ง บุญมี  ซึ่งยอมรับว่าเป็นช้างเกเร เรื่องนี้พูดกันในที่ประชุมมาแล้ว ทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เคยบอกว่าต้องมีการศึกษาและถ่ายรูปบันทึกภาพตำหนิรูปพรรณช้างป่าไว้ก่อน ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายนำออกไป วันนี้เวลาล่วงเลยมาก็ยังเหมือนเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสื่อมวลชนหลายสำนักนักได้รายงานข่าวความเคลื่อนไหวของช้างป่าที่บุกกัดกินทุเรียนและทำลายทรัพย์สิน มาอย่างต่อเนื่อง มีผู้ที่รับทราบข้อมูลต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่างๆในสื่อสังคมออนไลน์ โดยส่วนใหญ่เข้าใจความรู้สึกถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านป่าละอู พร้อมกับอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาให้เป็นรูปธรรมต่อไป

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0