นพ.แอนดรูว์ เบเกอร์ หัวหน้าแพทย์ประจำสำนักงานชันสูตรศพของเทศมณฑลเฮนเนพิน เมืองมินนีแอโพลิส สหรัฐฯ เปิดเผยผลการชันสูตรศพของจอร์จ ฟลอยด์ ชาวอเมริกันผิวสีวัย 46 ปี ที่เสียชีวิตขณะถูกตำรวจจับกุมเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ระบุว่า ผลตรวจสารคัดหลั่งจากช่องโพรงจมูก แพทย์พบว่า นายฟลอยด์ติดโรคโควิด-19 หลังเชื้อไวรัสฟักตัวในร่างกายมาหลายสัปดาห์ แต่ไม่มีอาการป่วย หมายความว่าการติดโรคโควิด-19 ไม่มีผลต่อการเสียชีวิตของฟลอยด์และสันนิษฐานว่าเขาน่าจะยังไม่อาจแพร่เชื้อโรคไปยังคนอื่นๆ
ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตของนายฟลอยด์เกิดจากระบบไหลเวียนโลหิตและทางเดินหายใจ หรือหัวใจหยุดทำงาน เนื่องจากอดีตตำรวจคือนายเดเรก ชอวิน ใช้เข่ากดทับคอของนายฟลอยด์กว่า 8 นาที นอกจากนี้ แพทย์พบว่า นายฟลอยด์มีบาดแผลหลายแห่งที่ศีรษะ,ใบหน้า,ปาก,ไหล่,แขนและขา และยังมีโรคประจำตัวเช่นโรคหัวใจและความดันสูง ผลตรวจพิษวิทยาพบ ยาเฟนทานิล หรือยาบรรเทาปวด และสารเสพติดคือยาบ้า ในเลือดเล็กน้อย
ผลชันสูตรศพของผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ ที่ครอบครัวของนายฟลอยด์จ้างมา ไม่ตรงกับ ผลชันสูตรศพของเทศมณฑลเฮนเนพิน ระบุว่านายฟลอยด์เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ เป็นผลจากการถูกนายชอวินใช้เขากดทับที่คอ โดยผลชันสูตรศพครั้งนี้ จะนำมาใช้ประกอบสำนวนการสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับอดีตตำรวจทั้ง 4 คนต่อไป
From CNN’s Andy Rose