ตำรวจบึงกาฬฉาว ไม่รับแจ้งความเหยื่อถูกหลอกซื้อของออนไลน์ อ้าง "แจ้งไปก็ไม่ได้เงินคืนอยู่ดี"

ปล่อยให้คนชั่วลอยนวลซะอย่างนั้น ตำรวจเซกา จังหวัดบึงกาฬไม่รับแจ้งความเหยื่อซื้อของออนไลน์ อ้าง "แจ้งความไปก็ไม่ได้เงินคืนอยู่ดี" เหน็บเลิกสั่งของออนไลน์ได้แล้ว พอโดนโกงก็มาลำบากตำรวจอีก ผ่านไป 2 ชั่วโมงถึงเพิ่งจะให้กลับมาโรงพัก อ้างดำเนินการให้แล้ว

วันที่ 23 พ.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pakpaew Kiattiya Tasee ได้โพสต์เรื่องราวถึงการให้บริการประชาชนของสถานีตำรวจภูธรเซกา อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ ที่ไม่รับแจ้งความผู้เสียหายจากการซื้อสินค้าออนไลน์ ไปยังบัญชีธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 004-8-11300-1 ชื่อบัญชี นายนิทัศน์ แซ่ตั้ง จำนวน 50,600 บาท แล้วไม่ยอมส่งสินค้าให้ โดยได้ลงบันทึกประจำวันเมื่อวันที่ 22 พ.ค. เวลา 14.40 น. แต่ทางธนาคารกสิกรไทยระบุว่า ยังไม่ใช่การแจ้งความเพื่อดำเนินคดี แนะนำให้ไปขอใบแจ้งความใหม่

แต่เมื่อกลับมาที่โรงพักกลับถูกปฏิเสธ อ้างว่าทำอะไรไม่ได้ แจ้งความไปก็ไม่ได้เงินคืนอยู่ดี เขากดไปใช้หมดแล้ว ดีไม่ดีบัญชีก็อาจถูกสวมรอย โดนขโมยบัตรไปเปิดบัญชี ไม่ใช่เจ้าตัวจริงๆ และตำหนิว่าไปเต็มใจโอนให้เขาเอง ยังจะกล้าสั่งของออนไลน์กันอีก ควรออกประกาศให้คนเลิกสั่งของออนไลน์กันไปเลย พอสั่งของโดนโกงกันมา ก็มาลำบากตำรวจอีก และไล่ให้ไปหาหลักฐานการโอนเงินมาแนบเพิ่ม จึงได้เดินทางกลับบ้านไป แต่เมื่อ 2 ชั่วโมงผ่านไป ตำรวจกลับบอกให้ไปที่โรงพัก บอกว่าดำเนินการให้แล้ว และเตรียมเอกสารมาเพิ่มอย่างละ 2 ชุด

สำหรับโพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pakpaew Kiattiya Tasee ระบุดังนี้

"รีวิวการขึ้นโรงพักเพื่อไปไถ่ถามเรื่องที่ขอแจ้งความไว้

"ตำรวจคือที่พึ่งของประชาชนจริงหรือ?"

ส่วนตัวก็คิดว่าจริงนะ ยังคงเชื่อแบบนั้น แต่…ไม่ใช่สำหรับทุกที่ ทุกคน วันนี้โคตรเสียความรู้สึก ทุกน้ำเสียงที่ออกมาจากคำพูดรู้สึกได้ถึงความไม่เต็มใจอยากให้บริการประชาชน

ขอรีวิวแบบคร่าวๆละกันค่ะ …

วันนี้เวลาราวๆ บ่ายสองโมง แพวได้ไปที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเซกา เพื่อแวะถามไถ่ความคืบหน้าเรื่องที่ร้องทุกข์ไว้ และอยากขอแจ้งความใหม่เพื่อให้เร่งดำเนินคดี

ใบที่ได้มาหลังจากไปโรงพักเมื่อวาน(22 พ.ค. 62) คือ "รายงานประจำวันรับแจ้งเป็นหลักฐาน" พอนำใบนี้ไปที่ธนาคาร เขาไม่ดำเนินการใดๆให้ ทางธนาคารบอกว่ายังไม่ใช่การแจ้งความเพื่อดำเนินคดี หลังจากนั้นมีพี่ที่รู้จัก แนะนำให้ไปขอแจ้งความใหม่ แจ้งตำรวจให้ชัดเลยว่าถูกหลอกและขออายัดบัญชีเพื่อให้แบงก์ดำเนินการ เราก็รีบแจ้นไปขอใหม่ แต่สิ่งที่คุณตำรวจบอกมา คือ "ก็ลงบันทึกไว้แล้ว จะมาแจ้งใหม่อีกไม่ได้ ก็ต้องรอ

แพว: แล้วทำไมถึงออกใบขออายัดไปก่อนไม่ได้ล่ะคะ ในเมื่อหนูมีหลักฐานการโอนเงิน ชื่อบัญชีธนาคาร ซึ่งตรงกับชื่อในบัตรประชาชน รวมไปถึงแชทที่คุยกับมิจฉาชีพ

ตร. : ก็เขายังเป็นผู้บริสุทธิ์ เพราะยังไม่ได้มีการสอบสวนอะไรเลย

แพว:หนูก็มาแจ้งความอยู่นี่ไงคะว่าถูกเขาหลอก แล้วทางตำรวจยังไม่ดำเนินการ แล้วหนูก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย

ตร.คนที่ 1: ก็ต้องรอไง ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ไม่ใช่หน้าที่ของเธอที่ต้องมาตาม เป็นหน้าที่ของตำรวจเขาจะดำเนินการเอง จะมาเร่งไม่ได้ ตำรวจทำคดีเป็นร้อยเป็นพันคดี ไม่ใช่มีแค่เรื่องนี้เรื่องเดียว เข้าใจมั้ยว่าต้องรอ

แพว: ต้องรออีกกี่วันคะ ถึงจะเรียกสอบปากคำ แล้วดำเนินคดีได้

ตร.คนที่ 1: ไม่รู้ ไม่มีกำหนด ให้คำตอบไม่ได้ ถึงเวลาก็จะเรียกมาสอบปากคำเอง ก็อย่างที่บอกไม่ได้มีคดีเธอคดีเดียว

แพว: แล้วอย่างนี้หนูก็ทำอะไรไม่ได้เลยงั้นหรอคะ

ตร.คนที่ 2: มันก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว จะอายัดบัญชีแล้วยังไง แจ้งความไปก็ไม่ได้เงินคืนอยู่ดี เขากดไปใช้หมดแล้ว ดีไม่ดีบัญชีก็อาจถูกสวมรอย โดนขโมยบัตรไปเปิดบัญชี ไม่ใช่เจ้าตัวจริงๆ

***เราคิดในใจโคตรอึ้งในคำตอบผู้เป็นที่พึ่งของประชาชน ***

แพว: ยังไงหนูก็ต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ให้เขาได้รับโทษ อย่างน้อยไม่ได้เงินคืน คนอื่นๆก็ไม่ถูกเขาหลอกอีก

ตร.คนที่ 2 : ก็ไปเต็มใจโอนให้เขาเอง ยังจะกล้าสั่งของออนไลน์กันอีก ใครๆเขาก็โดนหลอกเพราะสั่งออนไลน์ ควรเลิกสั่งได้แล้ว มีแต่พวกโดนหลอก ควรจะออกประกาศให้คนเลิกสั่งของออนไลน์กันไปเลย พอสั่งของโดนโกงกันมา ก็มาลำบากตำรวจอีก

แพว: หนูยืนยันว่ายังไงก็ขอใบเพื่อไปอายัดบัญชีไว้ก่อน หนูจะติดตามเองไปก่อน (ไอ้เราก็นั่งอยู่ตรงนั้นแหละไม่ลุกไปไหน เพราะต้องการใบขออายัด บช.)

ตร.คนที่ 2 : งั้นไปเอาหลักฐานการโอนเงินมาแนบเพิ่ม

จริงๆหลักฐานโอนเงินก็ให้ไปแล้วตั้งแต่วันแรก แต่โอเคอยากได้ใหม่

หลังจากนั้นก็กลับบ้านไปโดย ไม่มีอะไรคืบหน้า…แต่ๆๆ อีก 2 ชั่วโมงต่อมาตำรวจโทรเข้ามาเบอร์แฟนแพว บอกให้กลับไปโรงพัก แพวก็กลับไปที่โรงพัก อันนี้งงจริง ตำรวจคนเดิมที่คุยด้วยก่อนหน้านี้แบบอารมณ์ฉุนๆหายไปแล้วกลายเป็นคนใจเย็นขึ้นมา พูดกับเราดีมาก บอกว่าดำเนินการให้แล้วนะ เรื่องขออายัดบัญชีธนาคารก็ทำให้แล้ว เดี๋ยวกลับไปเตรียมเอกสารมาเพิ่มอย่างละ 2 ชุด แล้วนำมาส่งวันเสาร์ ที่จะถึงนี้ เวลา 10 โมง พร้อมสอบปากคำ กำลังดำเนินการให้

เอาจริงๆทำไมตั้งแต่ตอนแรกไม่พูดกับเราดีๆแบบนี้ มีแต่คำพูดแซะกัน แต่ละประโยคเหมือนถูกซ้ำเติม แต่ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ ที่ทำให้เราพอเห็นวี่แววอยู่บ้างว่าจะสามารถนำตัวคนโกงมารับโทษได้

แพวแค่รู้สึกว่ากฏหมายมีไว้คุ้มครองประชาชน เพราะฉะนั้นแม้เราอาจจะเชื่อคนง่ายไปทำให้ถูกหลอกลวง แต่เราก็มีสิทธิ์สามารถแจ้งความได้ ให้ตำรวจดำเนินคดีเอาผิดคนขี้โกงมาลงโทษตามกฏหมายไม่ใช่หรอคะ ….ถ้าเลือกได้แพวก็ไม่ได้อยากเป็นคนที่ถูกหลอก และก็ไม่อยากให้มีคนตกเป็นเหยื่ออีกต่อไป จึงอยากเร่งหาตัวคนทำผิด ถ้าไม่ทำอะไรซักอย่างเลยก็เท่ากับว่า เราปล่อยให้คนร้ายลอยนวลไปทำร้ายคนอื่นอีก

อยากให้ตำรวจเห็นใจกันบ้าง อย่าเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ขี้หมูราขี้หมาแห้ง ไม่งั้นพวกมิฉาชีพจะได้ใจ หลอกใครก็ลอยนวลไปได้ สำคัญตัวเองผิดไปว่า ตัวเองเก่ง กฏหมายทำอะไรไม่ได้ ไม่มีใครมาเสียเวลาเอาเรื่องให้ถึงที่สุด หลอกหากินบนความทุกข์ของคนอื่นไปเรื่อย

#สุดท้ายนี้ ใครมีอะไรที่เห็นว่าแพวทำไม่สมควรประการใด ก็แนะนำได้นะคะ เพราะแพวก็ไม่ทราบจริงๆว่าตำรวจเขาต้องทำงานกันลำบากซับซ้อนยังไงบ้าง เพราะแพวก็เป็นผู้เสียหายคนนึงที่เดือดเนื้อร้อนใจอยากหาคนทำผิดมารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้ ขอบคุณมากๆนะคะ"

อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา มิจฉาชีพรายหนึ่งโทรศัพท์ไปหานายเอกราช ทาสี ซึ่งเป็นผู้เสียหาย เสนอสินค้าจำพวกวัตถุดิบทำน้ำหวาน ชา กาแฟ บอกว่าได้เบอร์มาจากเพจ เห็นขายของอยู่เผื่อสนใจ ต่อรองราคากันเสร็จจึงได้สั่งสินค้าผ่านทางแอปพลิเคชั่นไลน์ หลังจากสั่งของเสร็จ มิจฉาชีพกล่าวว่า ต้องโอนเงินก่อนรับสินค้า ไปยังบัญชีชื่อ นายนิทัศน์ แซ่ตั้ง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ 4 ต.โสนลอย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมโพสต์ภาพบัตรประชาชน พอโอนเงินไปแล้วบอกว่าจะส่งของให้ในวันถัดไป แต่กลับอ้างว่าจำชื่อขนส่งไม่ได้ แล้วไม่ส่งของมาให้ พอทักไปอ้างว่าได้รับของแน่นอน ก่อนจะยอมรับสาย มีการตัดสายและปิดเครื่อง พอถามไถ่ไปทางไลน์ ก็มีการเปิดอ่านแต่ไม่ตอบ และหลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก